วันที่ 4 ธันวาคม 2563 เวลา 17.00 น. ณ สโมสรสัญญาบัตร หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงนครพนม (นรข.) พล.ร.ต.จรัสเกียรติ ไชยพันธุ์ ผบ.นรข.นครพนม  พร้อมด้วย นายสฤษดิ์ รัตนวงษ์ นายอำเภอบึงโขงหลง จ.บึงกาฬ พ.อ.ประวัติ จารุตัน ผู้บังคับกองบังคับการควบคุม ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(ป.ป.ส.ฯ)  น.อ.วรัท โกพลรัตน์ ผบ.นรข.เขตหนองคาย นายนิมิตร นันตา ผู้อำนวยการส่วนวิเคราะห์ข่าว และเฝ้าระวัง สำนักงาน ปปส.ภาค 4(ขอนแก่น) แถลงการณ์ตรวจยึดยาเสพติดล๊อตใหญ่ มียาไอซ์ จำนวน 711 กิโลกรัม  มูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,066.5 ล้านบาท ยาบ้า จำนวน 132,000 เม็ด มูลค่าไม่ต่ำกว่า 13.2 ล้านบาท และรถยนต์กระบะ 1 คัน 

สืบเนื่องจากวันที่ 3 ธันวาคม ที่ผ่านมา นรข.เขตหนองคาย(มีเขตรับผิดชอบตั้งแต่ปากแม่น้ำเหือง บ้านท่าดีหมี ต.ปากตม อ.เชียงคาน จ.เลย ถึง บ้านท่าศิริขันธ์ ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ รวมระยะทาง 402 กม.) ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ บริเวณรอยต่อรับผิดชอบของสถานีเรือบึงกาฬ นรข.เขตหนองคาย และ สถานีเรือบ้านแพง นรข.เขตนครพนม(มีพื้นที่รับผิดชอบตั้งแต่บ้านท่าศิริขันธ์ ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ ถึง ดอนถ้ำเงิน บ้านห้วยกอก ต.ดอนตาล อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร รวมระยะทาง 252 กม.) โดยคาดว่าขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติจะลำเลียงขึ้นทางบ้านเหล่าหมากผาง หมู่ 6 ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ  จึงสั่งการให้ น.ต.วชิรวิทย์ ใจสัตย์ หัวหน้าสถานีเรือบึงกาฬ จัดชุดปฏิบัติการพร้อมประสานกับสถานีเรือบ้านแพง ตลอดจนหน่วยงานความมั่นคง อาทิ ทหารพรานจากกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี(กกลฯ) ตำรวจภูธรจังหวัดบึงกาฬ ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม บูรณาการวางแผนในการสกัดกั้นจับกุม และจัดชุดลาดตระเวนเข้าซุ่มตรวจในเขตรับผิดชอบของรอยต่อดังกล่าว

กระทั่งเวลา 18.30 น.โดยประมาณ พบเรือหาปลาติดเครื่องยนต์แล่นมาจากประเทศเพื่อนบ้าน จอดเทียบท่าริมฝั่งแม่น้ำโขงบ้านเหล่าหมากผาง โดยมีชายฉกรรจ์ประมาณ 5-8 คน  ช่วยกันลำเลียงวัตถุต้องสงสัยจากเรือไปใส่รถยนต์กระบะตอนเดียวยี่ห้อตงฟง สีขาว ทะเบียน ผม 4432 นครราชสีมา ที่จอดรออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว จึงประสานไปยังชุดลาดตระเวนชุดที่สอง ตั้งจุดสกัดกั้นการหลบหนีในเส้นทาง พร้อมกับแสดงตนเข้าตรวจค้น ชายฉกรรจ์ดังกล่าวจึงรีบวิ่งไปขึ้นเรือแล่นกลับไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้านอย่างรวดเร็ว

เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยที่อยู่กระบะรถ พบเป็นกล่องกระดาษเป็นตราสัญลักษณ์ไปรษณีย์แห่งหนึ่ง จำนวน 21 กล่อง เปิดดูภายในพบเป็นถุงสำหรับบรรจุใส่ชาจีนยี่ห้อกวมอิมหวัง แต่ด้านในมีวัตถุก้อนสีขาวบริสุทธิ์ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานยืนยันว่าเป็นยาไอซ์ มีน้ำหนักรวมทั้งสิ้น 711 กก. ส่วนที่เหลือเป็นถุงบรรจุหัวอาหารสัตว์สีขาวไม่มียี่ห้อ พบว่าเป็นยาเสพติดประเภท 1(ยาบ้า) นับได้รวม 132,000 เม็ด โดยประเมินราคาของกลางยาไอซ์ กก.ละ 1,500,000 บาท มูลค่า 1,066,500,000 บาท ยาบ้าราคาประมาณเม็ดละ 100 บาท มีมูลค่า 13,200,000 บาท มูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,079,700,000 บาท

พล.ร.ต.จรัสเกียรติ ไชยพันธุ์ ผบ.นรข.นครพนม เปิดเผยว่า  การตรวจยึดยาเสพติดครั้งนี้ถือว่ามากสุดในรอบ 10 ปี โดยคาดว่านำเข้ามาจากสามเหลี่ยมทองคำแถบชายแดนภาคเหนือ  ซึ่งถือว่าเป็นการตรวจยึดยาไอซ์ได้มากสุดในพื้นที่ชายแดนอีสาน นอกจากนี้ยังมียาบ้าอีก 132,000 เม็ด  ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลร่วมกับหน่วยงานปราบปรามยาเสพติด โดยยาเสพติดที่ตรวจยึดได้ล่องมาจากภาคเหนือ เนื่องจากช่วงนี้มีการเข้มงวดตามมาตรการโควิดในพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ ทำให้มีการเปลี่ยนเส้นทางหันมาลักลอบนำเข้าทางชายแดนอีสาน ระยะนี้จึงมีการตรวจยึดบ่อยๆ

โดยจากสถิติการจับกุมในช่วงไตรมาสแรกของ นรข.(1 ต.ค.-4 ธ.ค.63)  ที่มี พล.ร.ต.จรัสเกียรติ ไชยพันธ์ ดำรงตำแหน่ง ผบ.นรข. มีการจับกุมตรวจยึดยาเสพติดมากถึง 37 ครั้ง ได้แก่ยาบ้า 18,620,148 เม็ด,กัญชากว่า 3 ตัน,ยาไอซ์ 1,251 กก., และ เฮโรอีน 248 dd. คิดเป็นเงินรวมมูลค่ากว่า 4,300 ล้านบาท อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญจะต้องสร้างความร่วมมือกับภาคประชาชนให้มากที่สุด ในการเพิ่มมาตรการสกัดกั้นปราบปรามจับกุมต่อเนื่อง