ระทึก ! "กระบะ" พุ่งชนลวดสลิงลากอีแต๋น ข้ามถนนพังเสียหาย หวิดดับ
16 ธ.ค. 2563, 11:21
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.รังสรร ลมไธสง รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถชนกันหลายคันมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่ถนนสายแยกสารพัดช่าง-อู่วิเชียร (พันศรโยธา) ต.รั้วใหญ่ อ.เมืองสุพรรณบุรี ไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ที่เกิดเหตุพบรถกระบะของบริษัทขนส่งเคอรี่สีส้มยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน 66-5017 กรุงเทพมหานคร เสียหลักหน้าลอยอยู่ริมถนนโดยมีรถกระบะยี่ห้อโตโยต้าสีบรอนซ์ทะเบียน ปค 2845 กรุงเทพมหานคร ชนอัดติดอยู่ด้านท้ายสภาพหน้ารถและท้ายรถพังเสียหาย ห่างกันประมาณ 20 เมตรมีรถอีแต๋นสภาพเก่าไม่มีหมายเลขทะเบียนบรรทุกท่อนไม้เต็มคันจอดอยู่ ที่หน้ารถมีลวดสลิงติดคาอยู่ นอกจากนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง 2 คนเจ้าหน้าที่ได้ช่วยปฐมพยาบาลแล้วรีบนำส่ง รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช ไปก่อนหน้าแล้ว
จากการสอบสวนนายเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายปรีชา มีชนะ อายุ 68 ปีได้ขับรถอีแต๋นมาตัดไม้และกำลังบรรทุกท่อนไม้ไปส่งนายทุนที่ตลาดสวนแตงขณะที่รถอีแต๋นแล่นออกจากซอยมาถึงริมถนนรถเกิดเสียเครื่องสตาร์ทไม่ติดจึงโทรตามนายไมตรี มีชนะ ลูกชาย อายุประมาณ 40 ปีขับรถบรรทุกเป็ดมาช่วยลากเมื่อมาถึงนายไมตรี ไม่รอช้ารีบคล้องลวดสลิงที่รถทั้งสองคันเสร็จได้เร่งเครื่องรถคันที่ตัวเองขับออกจากข้างทางข้ามถนนหลักเพื่อจะกลับรถแต่รถอีแต๋นยังอยู่ริมถนนส่วนลวดสลิงก็ไม่ได้ใช้ผ้าผูกทำสัญลักษ์ ระหว่างนั้นนายพิษณุ ประเสริฐลาภ อายุ 27 ปีได้ขับรถเคอรี่กลับจากส่งของให้ลูกค้ามาตามถนนสายดังกล่าว โดยมี น.ส.สุธาสินี ตันศักดิ์ดา ขับรถกระบะโตโยต้าดีโฟร์ดี ตามหลังรถเคอรี่โดยมี น.ส.ศิริพรรณ ตันศักดิ์ดา อายุ 56 ปีแม่ของ น.ส.สุธาสินี นั่งคู่เบาะหน้าซ้าย ถึงที่เกิดเหตุคนขับรถเคอรี่ สังเกตเห็นลวดสลิงที่พาดอยู่กลางถนนระยะกระชั้นชิดจึงรีบเบรคแต่ไม่ทันรถเคอรี่พุ่งชนลวดสลิงขาดกระเด็น และ น.ส.สุธาสินี ซึ่งขับกระบะตามหลังรีบเบรกตามแต่เบรกไม่อยู่จึงพุ่งชนท้ายรถเคอรี่อย่างแรงจนรถพังยับทำให้ น.ส.ศิริพรรณ และน.ส.สุธาสินี ได้รับบาดเจ็บโชคดีที่ไม่สาหัส
ทางด้านนายพิษณุ คนขับรถเคอรี่ กล่าวว่าก่อนเกิดเหตุตนได้ขับรถกลับจากส่งของให้ลูกค้าและกำลังจะไปเติมน้ำมันก่อนเข้าบริษัทโดยขับมาตามถนนสายดังกล่าวถึงที่เกิดเหตุจู่ๆตนเห็นลวดสลิงเด้งขึ้นจากกลางถนนในระยะกระชั้นชิดจึงรีบเบรคจนตัวโก่งแต่เบรคไม่อยู่รถจึงพุ่งชนลวดสลิงจนขาดและรถกระบะที่ขับตามหลังก็เบรคไม่อยู่จึงพุ่งชนท้ายรถของตนอีกต่อจนกระเด็นลงไหล่ทางโชคดีที่ไม่มีใครเจ็บสาหัส
สำหรับเหตุการณ์ที่ใช้ลวดสลิงลากจูงรถข้ามถนนแล้วไม่ผู้ผ้าหรือทำเครื่องหมายลัญลักษณ์เตือนผู้ใช้รถคนอื่นจนเกิดเหตุรถจักรยานยนต์ชนลวดสลิงมีคนเสียชีวิตมาแล้วถึง3ศพและครั้งนี้นับว่าโชคดีที่ไม่มีคนเจ็บสาหัสและเสียชีวิต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหานายปรีชา คนขับรถอีแต๋นและนายไมตรี ลูกชายคนขับรถบรรทุกเป็ด กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายและทรัพย์สินเสียหาย