วันที่ 29 ธ.ค. 2563 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ที่ประชุมพิจารณาการปรับปรุงคุณสมบัติและเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการส่งเสริมการจ้างงานใหม่ สำหรับผู้จบการศึกษาใหม่ โดยภาครัฐและเอกชน หรือ Co Payment ของกระทรวงแรงงาน ซึ่งคณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติกรอบวงเงิน 19,000 ล้านบาทไปแล้ว เพื่อสนับสนุนให้มีการจ้างงาน 260,000 อัตรา ที่เริ่มตั้งแต่เดือน ตุลาคม - ธันวาคม 

กระทรวงแรงงาน ร่วมกับสำนักงานประกันสังคม ได้ประเมินผลการทำงาน ปัญหา และอุปสรรคต่างๆ พบว่า เงื่อนไขที่กำหนดไว้เดิมทำให้นักศึกษาที่จบใหม่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ กระทรวงแรงงาน จึงเสนอให้มีการปรับปรุงคุณสมบัติ ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบ อนุมัติการปรับปรุงคุณสมบัติครั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาจบใหม่ 200 คน มีโอกาสเข้าถึงการจ้างงานจากโครงการ Co Payment จากเดิมที่กำหนดไว้ว่า คนที่จะเข้าร่วมโครงการ Co Payment จะต้องมีสัญชาติไทย และไม่เคยอยู่ในระบบประกันสังคม ยกเว้นกรณีผู้จบการศึกษาใหม่ที่อยู่ในระบบประกันสังคม ที่เป็นแบบพาร์ทไทม์ และอายุไม่เกิน 25 ปี หรืออายุเกิน 25 ปี แต่จบการศึกษาประจำปีการศึกษา 2562 หรือ จบในปี 2563 มีเงื่อนไขเดิม ทำให้มีนักศึกษาที่จบใหม่ที่เคยทำงานอยู่ในระบบประกันสังคม มีชื่ออยู่ในประกันสังคม แต่ช่วงระหว่างทดลองงาน 1 ถึง 6 เดือนนี้เกิดการระบาดของโรค covid ขึ้น ทำให้นายจ้างต้องปลดคนงานทั้งกลุ่มไม่สามารถทำงานต่อได้ และไม่สามารถเข้าร่วมโครงการ Co payment ได้ จึงมีการปรับเกณฑ์ใหม่ เหลือเพียงต้องเป็นคนที่มีสัญชาติไทยเท่านั้น