เมื่อวันที่ 1 ม.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตลาดวัฒนธรรมอาเซียนวัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากพากันมาชมความน่ารักของช้างแสนรู้ จำนวน 4 เชือก ซึ่งพระครูโกศลสิกขกิจ  หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะ อ.ภูสิงห์ (ธ) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา ได้นำเอาช้างทั้งหมดมาทำเป็นปางช้าง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาชมและศึกษาธรรมชาติของช้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าชายภูดอย ซึ่งเป็นช้างพลายแสนรู้ สามารถทำตามคำสั่งของครวญช้างได้อย่างน่ารักมาก เช่น เมื่อได้รับอาหารจากนักท่องเที่ยว จะส่งเสียงร้องขอบคุณ และเมื่อหลวงพ่อพุฒมายืนให้อาหารอยู่ด้วย เจ้าชายภูดอยก็จะคุกเข่าเท้าคู่หน้าลงคู่กัน ลักษณะเหมือนกับการพนมมือไหว้ของคน จากนั้นจะเอางวงรับอาหารซึ่งเป็นท่อนอ้อย พร้อมทั้งส่งเสียงร้อง เพื่อเป็นการขอบคุณ เมื่อรับอาหารเสร็จแล้วก็จะกินอ้อยเป็นอาหาร เสร็จแล้วก็จะลุกขึ้นยืน และหากว่ามีผู้ให้อาหารอีก ครวญช้างจะสั่งว่าร้องขอบคุณ เจ้าชายภูดอยจะเหยียดเท้าไปข้างหน้าย่อตัวลง แล้วส่งเสียงร้องขอบคุณ ขณะที่ช้างอีก 3 เชือก ประกอบด้วย น้องทัดดาว น้องน้ำฝน และสาวจันทร์หอม ก็จะเชื่องและแสนรู้เช่นกัน เมื่อรับอาหารแล้วก็จะเอางวงมาแตะกับมือของผู้ให้อาหาร เพื่อเป็นการขอบคุณ ซึ่งปรากฏว่านักท่องเที่ยวต่างพากันประทับใจกับความแสนรู้ของช้างทุกเชือกเป็นอย่างมาก

นายจรูญโรจน์   ไชยโคตร อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ 4 ต.ผือใหญ่ อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษนักท่องเที่ยวคนหนึ่งที่มากับครอบครัวและเพื่อนๆ กล่าวว่า ตนรู้สึกประทับใจกับความแสนรู้และความน่ารักของช้างทุกเชือกเป็นอย่างมาก ซึ่งการที่วัดไพรพัฒนานำเอาช้างมาทำเป็นปางช้างขึ้นมา เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชม ตนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีและมีประโยชน์มาก เนื่องจากว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวได้ชมธรรมชาติของช้างอย่างใกล้ชิด ไม่ต้องเดินทางไกลไปถึง จ.สุรินทร์ ที่มีช้างจำนวนมาก นับว่าเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของ จ.ศรีสะเกษ ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาได้เป็นอย่างดียิ่ง

พระครูโกศลสิกขกิจ  หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะ อ.ภูสิงห์ (ธ) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา กล่าวว่า เจ้าของช้างทั้งหมดเป็นลูกหลานของญาติโยมที่นำเอาช้างมาจาก จ.ภูเก็ต ก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนในการทำมาหากิน จึงได้กลับมาอยู่บ้านที่ จ.สุรินทร์ ดังนั้น อาตมาภาพจึงได้อำนวยความสะดวกในการจัดสถานที่รองรับให้ครวญช้างและช้างทั้งหมดได้พักอาศัยอยู่ได้ โดยช้างที่นำมาครั้งแรกนี้มีจำนวน 4 เชือก และจะมีช้างมาเพิ่มอีก จำนวน 4 เชือก รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 8 เชือก ซึ่งจะมีการจัดการแสดงของช้างขึ้นมาในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ส่วนจะเป็นการแสดงอย่างไรนั้น จะมีการจัดโปรแกรมการแสดงแจ้งออกมาให้ทราบโดยทั่วกัน คาดว่าจะเปิดการแสดงของช้างได้ภายใน 2 สัปดาห์นี้ เนื่องจากว่าจะต้องจัดเตรียมสถานที่ให้มีความพร้อมในทุกด้านให้มีความเรียบร้อยสวยงามเสียก่อน ซึ่งปางช้างแห่งนี้จะเป็นอีกแห่งหนึ่งไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวและพุทธศาสนิกชนทั่วไปได้นำบุตรหลาน ครอบครัวมาชมความน่ารักของช้างแสนรู้ หลังจากที่ได้พากันไปกราบขอพรจากหลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน ที่วัดไพรพัฒนาเสร็จเรียบร้อยแล้ว