ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี อุณหภูมิได้ลดลงมาต่อเนื่องโดยเฉพาะพื้นที่สูง ในตำบลทองหลาง อำเภอห้วยคต และตำบลแก่นมะกรูด อำเภอบ้านไร่ และเป็นพื้นที่ถิ่นอาศัยของชาวไทยภูเขาเผ่ากระเหรี่ยง ละว้า และขมุก และที่นี่ยังเป็นพื้นที่ที่ถูกขนาดนามว่าหนาวสุดกลางสยาม โดยในระยะ 2 – 3 วันนี้ ในช่วงกลางคืน และช่วงเช้ามืดอากาศหนาว และมีลมแรง ทำให้อุณหภูมิลดฮวบเหลือเพียง 9 – 10  องศา เท่านั้น ส่งผลให้มีอากาศหนาวเย็นจัด ทำให้ชาวไทยภูเขาเผ่าต่างๆดังกล่าว ซึ่งหลายครอบครัวพบว่ายังขาดเครื่องห่มกันหนาวกันอีกหลายครอบครัว โดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุปรับอุณหภูมิร่างกายไม่ทัน และเสี่ยงที่จะเกิดอาการเจ็บป่วย ชาวไทยภูเขาจึงต้องหาเครื่องนุ่งห่มกันหนาวมาสวมใส่ ส่วนผู้ที่ขาดแคลนเครื่องห่มกันหนาว ทั้งเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ รวมถึงทุกเพศทุกวัย แต่ละครอบครัวต้องหาฟืนมาก่อไฟล้อมวง เพื่อผิงไฟคลายความหนาวเย็นให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ในช่วงกลางคืนก่อนเข้านอน และในช่วงเช้ามืดก่อนที่ออกไป  ทำไร่ ทำสวน  ต่อไป

ขณะที่ทางด้าน นายแพทย์ปรารถนา ประสงค์ดี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุทัยธานี  ออกมาแจ้งเตือน ชาวบ้านบางส่วนยังมีความเข้าใจผิดที่เชื่อว่าการดื่มสุราจะสามารถสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกายหรือคลายหนาวได้ ซึ่งในทางการแพทย์ยืนยันว่า เป็นความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง เพราะผลจากการดื่มสุรานั้นนอกจากจะเป็นผลเสียต่อสุขภาพแล้วยังบั่นทอนสมรรถภาพร่างกาย สำหรับชาวบ้านที่ร่างกายสัมผัสกับความเย็นเป็นเวลานาน และมีการดื่มสุราตามความเชื่อดังกล่าวก็อาจจะเกิดภาวะช็อกฉับพลันเนื่องจากร่างกายปรับสภาพไม่ทัน  และสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง ส่งผลให้มีรายงานสถานการณ์ของโรคระบบทางเดินหายใจและโรคที่ต้องเฝ้าระวังในช่วงฤดูหนาวมีเพิ่มมากขึ้น โดยส่วนมากจะพบในเด็กแรกเกิดถึง 5 ปี รองลงมาเป็นกลุ่มผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป อีกทั้งยังมีแนวโน้มจำนวนผู้ป่วยต่อเนื่อง จึงต้องมีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษในผู้ป่วยเรื้อรังผู้สูงอายุและเด็กเล็ก จากโรคที่พบบ่อยในฤดูหนาว ได้แก่ โรคไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัด ปอดบวม โรคหัดหัดเยอรมัน อีสุกอีใส และโรคอุจจาระร่วง จึงได้ให้แนะนำให้ประชาชนรักษาร่างกายให้อบอุ่นด้วยการสวมใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หากมีอาการป่วยควรพักผ่อนอยู่ที่บ้านเพื่อไม่แพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น