ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ เข้าช่วยเหลือ 2 ตา-ยาย โดนพิษโควิด-19 ต้องประกาศขายดวงตาใช้หนี้
20 ม.ค. 2564, 18:40
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า จากกรณีที่ นางฮอง ก่ำเกลี้ยง อายุ 72 ปี พร้อมด้วย นายบุญเชี่ยว สินสวัสดิ์ อายุ 74 ปี สองสามีภรรยา ชาว อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ประกอบอาชีพค้าขายขนมโบราณ ขนมหูช้าง และข้าวเกรียบกุ้ง ได้เขียนจดหมายเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือกับผู้สื่อข่าวเพื่อขอให้เป็นสื่อกลางไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้ใจบุญ ถึงปัญหาความเดือดร้อนไร้ที่พึ่งของตนกับสามี เนื่องจาก เจอปัญหาโรคโควิด-19 ระบาดรอบ 2 ส่งผลทำให้การค้าขายขนมถดถอย ขายของไม่ค่อยได้เลย เงินก็ไม่มี มีเพียงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กระทั่งบางวันอดมื้อกินมื้อ นอนกินน้ำตา จนสามีคิดสั้นหยิบมีดจะมากรีดคอตัวเองหวังฆ่าตัวตายมาแล้ว 2 หน แต่นางฮองมองเห็นพอดีจึงได้รีบวิ่งเข้าไปช่วยและแย่งมีดออกมา เพราะเครียดไม่มีเงินใช้หนี้และถูกไล่ออกจากที่ ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน ชีวิตขณะนี้ไม่มีอะไรเหลือแล้ว นางฮองจึงประกาศขายดวงตา 1 ข้าง เพื่อชดใช้หนี้และประทังชีวิตจนกว่าจะหมดลมหายใจ โดยติดหนี้ต่าง ๆ รวมแล้วประมาณ 5 แสนบาทเศษ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเลขที่ 110 หมู่ 17 บ้านสวนฝ้าย ต.สำโรง อ. อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของ นางฮอง ก่ำเกลี้ยง อายุ 72 ปี และ นายบุญเชี่ยว สินสวัสดิ์ อายุ 74 ปี สองสามีภรรยา นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นางมัลลิกา พุฒิชาติ นายกเหล่ากาชาดศรีสะเกษ นายบุญประสงค์ นวลสายย์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ศรีสะเกษ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ศรีสะเกษ นายอำเภออุทุมพรพิสัย ตัวแทนธนาคารออมสิน สาขาศรีสะเกษ ตัวแทนธนาคารอาคารสงเคราะห์สาขาศรีสะเกษ และตัวแทนธนาคาร ธ.ก.ส.สาขาศรีสะเกษ และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางมาพบกับ 2 ตายาย เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งได้มีการหารือกันเพื่อหาแนวทางที่จะให้การช่วยเหลือแก่นางฮองและสามี โดยนางมัลลิกา พุฒิชาติ นายกเหล่ากาชาดศรีสะเกษ ได้มอบถุงยังชีพ อุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง ๆ ในครัวเรือน ให้แก่ นางฮอง นอกจากนี้แล้ว พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ศรีสะเกษ ได้มอบเงินสดช่วยเหลือเบื้องต้น จำนวน 2,000 บาทด้วย ซึ่งตัวแทนธนาคารที่มาร่วมในครั้งนี้ ได้หารือกับนางฮองและสามี เพื่อหาทางในการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระหนี้สินของ 2 ตายายในครั้งนี้ ขณะเดียวกัน นางฮอง ได้แจ้งให้ ผวจ.ศรีสะเกษ ทราบว่า จากการที่สื่อมวลชนได้มีการเผยแพร่ข่าวนี้ออกไปอย่างกว้างขวางแล้ว ปรากฏว่า มีผู้ใจบุญทั่วประเทศบริจาคเงินเข้ามา เพื่อให้การช่วยเหลือตนแล้ว เป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 50,000 บาทเศษ
นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า หนี้สินของ 2 ตายายที่เกิดขึ้นมานี้เป็นหนี้สุจริตที่เกิดจากการสร้างบ้านหลังเล็ก ๆ หนี้ที่เกิดจากการซื้อรถยนต์มือสองมาใช้เป็นเครื่องมือในการทำมาหากิน และหนี้ที่เกิดจากการซื้อวัสดุมาใช้ในการสร้างบ้าน ซึ่งเป็นภาระหนี้สินของ 2 ตายาย ประมาณ 500,000 บาทเศษ ซึ่งทุกธนาคารที่มาในวันนี้ ได้ช่วยกันวิเคราะห์ว่า จะช่วยคุณตาคุณยายอย่างไร ซึ่งแนวทางของธนาคารออมสินและ ธ.ก.ส.จะเป็นทางเลือกที่ง่ายและเร็วที่สุด ในการจัดการหนี้ให้กับตายาย โดยจะนำหนี้ทั้งหมดมาอยู่ในกองเดียวกันเป็นการลดภาระให้กับตายายในช่วงนี้ ตนจะสั่งการให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาบูรณาการสงเคราะห์ช่วยเหลือ 2 ตายายอย่างเต็มที่ต่อไป
ทางด้าน นางฮอง ก่ำเกลี้ยง อายุ 72 ปี ซึ่งประกาศขายดวงตาใช้หนี้ กล่าวว่า ตนต้องขอกราบขอบพระคุณท่าน ผวจ.ศรีสะเกษ นายกเหล่ากาชาดศรีสะเกษ ตัวแทนธนาคาร ส่วนราชการและสื่อมวลชนทุกแขนงที่เข้ามาให้การช่วยเหลือตนกับสามีในครั้งนี้ ซึ่งในขณะนี้ตนจึงขอประกาศปิดการรับบริจาคเงินไม่ขอรับบริจาคเงินอีกต่อไป เนื่องจากว่า ขณะนี้ท่าน ผวจ.ศรีสะเกษและธนาคารรวมทั้งส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาให้การช่วยเหลือตนแล้ว ซึ่งตนจะไม่ประกาศขายดวงตาเพื่อใช้หนี้อีกต่อไป ตนขอกราบขอบคุณทุกภาคส่วนที่เข้ามาให้การช่วยเหลือตนในครั้งนี้