วันที่ 1 สิงหาคม 2562 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายชาตรี จันทร์วีระชัย ปลัดจังหวัดระนอง และจ่าเอกไพรัช แก้วมณี ผบ.ร้อย.อส.จ.รน.1 /เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. พร้อมกำลัง ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดระนอง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน สังกัด ร้อย.อส.จ.รน.1 เข้าตรวจค้นบ้านเช่าไม่มีเลขที่ บริเวณหัวสะพานซอย 9 ม.6 ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง ภายใต้การสั่งการของ นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง หลังได้รับร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่ามีชาวเมียนมา ขายยาบ้าให้กับวัยรุ่นทั้งที่เป็นคนไทยและชาวเมียนมาในชุมชน และมีการมั่วสุมเข้าออกบ้านหลังดังกล่าวทั้งวันทั้งคืน จนชาวบ้านหวาดกลัวเกรงว่าจะเกิดอันตราย

โดยเจ้าหน้าที่ได้ส่งสายเข้าล่อซื้อ หลังจากนั้นได้แสดงตัวเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว ได้ผู้ต้องหาชื่อ นายอู้จอโทนาย อายุ 24 ปี และ นางยินยินทู อายุ 20 ปี 2 สามีภรรยาสัญชาติเมียนมา พร้อมของกลางยาบ้า 6 เม็ด ที่บรรจุในกระปุกแป้งพม่าและซ่อนในรูอิฐบล็อกด้านหลังบ้าน

ซึ่งก่อนจากการสอบถาม นายอู้จอโทนาย สารภาพทั้งน้ำตาว่า ได้ค้ายาบ้าจริงตามที่เจ้าหน้าที่เจอของกลาง ซึ่งเดิมตนเองและภรรยาทำงานอยู่ในสวนปาล์มแห่งหนึ่ง แต่เมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ตนเองและภรรยาป่วยไม่สามารถทำงานได้ จึงได้โทรปรึกษากับเพื่อนที่ออกเรือประมง จากนั้นเพื่อนได้นำยาบ้ามาส่งให้จำหน่าย โดยตนเองรับยาบ้ามาในราคาเม็ดละ 50 บาท ขายทั่วไปเม็ดละ 100 บาท แต่หากซื้อครั้งละมาก ๆ จะขายเม็ดละ 70-80 บาท และที่ต้องขายยาบ้าเพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัวในระหว่างที่ตนเองกับภรรยาป่วยจนไม่สามารถทำงานได้ ส่วนลูกวัย 3 ปี ตนเองได้นำไปฝากกับแม่ที่ทำงานอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต เพราะไม่มีมีจะเลี้ยงดู ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สอบถามทางภรรยาว่ารู้ไหมว่า สามีขายยาบ้า ภรรยาบอกว่ารู้แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ายา ตนเองป่วยออกไปไหนจากบ้านไม่ได้ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อเพราะจากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ก่อนเข้าจับกุมทราบว่า ทุกครั้งที่มีการรับยาเสพติดภรรยาของ นายอู้จอโทนาย จะเดินทางไปรับเองจากเพื่อนสามีเมื่อเรือประมงกลับเข้าถึงฝั่ง และจากข้อมูลทราบว่าแต่ละครั้งมีการนำยาบ้ามาส่งครั้งเป็นพันเม็ดในราคาถูกกว่าที่ผู้ต้องหาให้การ ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะได้ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบเรือประมงลำดังกล่าวที่เพื่อนชาวเมียนมาที่นำยามาส่งผู้ต้องหาต่อไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัวชาวเมียนมาทั้ง 2 คน ไปทำการสอบสวนเพิ่มเติมต่อที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนที่ 1 จังหวัดระนอง และจะได้แจ้งข้อกล่าวหาและส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองระนอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป