โควิด-19 ทำพิษ!! เกษตรกร จ.สุพรรณบุรี ปลูกพริกมันสดดำ ได้ราคาตกต่ำ
27 ม.ค. 2564, 19:11
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนทุกสาขาอาชีพแม้กระทั่งเกษตรกรที่ปลูกพริกเม็ดใหญ่ ต่างได้รับผลกระทบราคาตกต่ำจากราคากิโลกรัมละ 50-60 บาท เหลือเพียงกิโลกรัมละ 8 บาท ต่างจากพริกขี้หนูสดที่ราคาพุ่งสูงลิ่ว วอนรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ได้รับแจ้งว่ามีเกษตรกรเจ้าของไร่พริก ที่ อ.อู่ทอง ได้รับความเดือดร้อนราคาพริกตกต่ำจากพิษโควิด-19 ไปตรวจสอบพบนางสำรวน ครุฑโพธิ์ศรี หรือ ป้าหล้า อายุ 66 ปี เกษตรกร บ้านหนองสามห้าง หมู่ 9 ต.หนองโอ่ง อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ผู้ปลูกพริกมันสดดำ ได้พาผู้สื่อข่าวดูสวนพริกมันสดดำของที่ปลูกบนเนื้อที่ 10 ไร่ ให้ผลผลิตอย่างดีและมีคนงานกำลังเก็บเกี่ยวผลผลิต อยู่กลางแดด
นางสำรวน เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนและครอบครัวได้ทำไร่ข้าวโพดแต่ประสบปัญหาหลายอย่างทั้งถูกหนอนกัดกินต้นข้าวโพดและข้าวโพดไม่ออกฝักทำให้ขาดทุนไปนับแสนบาท จึงตัดสินใจไปกู้เงินจาก ธ.ก.ส.มาลงทุนปลูกพริกมันสดดำ ในช่วงที่กำลังปลูกพริกมันสดดำราคาดี กิโลกรัมละ 50-60 บาท และราคาต่ำสุด 30 บาท แต่หลังลงทุนปลูกไปแล้วจนพริกออกผลผลิตให้ได้เก็บเกี่ยว กลับมาเจอปัญหาไวรัสโควิด-19 ระบาด ทำให้พริกขายไม่ได้ พ่อค้าไม่รับซื้อทำให้ราคาตกต่ำที่สุด ซึ่งการลงทุนนอกจากพันธุ์พริกแล้วยังมีอุปกรณ์ท่อน้ำปั๊มน้ำ ค่าปุ๋ย ค่ายา และค่าจ้างคนงานเก็บพริก ที่ต้องจ้างเก็บกิโลกรัมละ 2 บาท ต่างจากราคาพริกขี้หนูสดที่แพงลิบลิ่ว
หลังจากเก็บพริกเสร็จแล้งต้องมาบรรจุใส่ถุงพลาสติกก่อนนำไปส่งขายให้พ่อค้าคนกลางที่ตลาดสี่มุมเมือง ซึ่งต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก ถ้าหากราคาไม่ตกคิดว่าคงจะพอได้เงินทุนส่งธนาคาร แต่มาเจอปัญหาราคาพริกมันสดดำตกต่ำแบบนี้คงไม่มีเงินไปใช้หนี้ธนาคารแน่ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือเรื่องราคาของพริกมันสดดำหน่อย เพราะช่วงนี้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ราคาขายส่งพริกมันสดดำที่ตลาดสี่มุมเมืองเหลือแค่ กิโลกรัมละ 8 บาท ทั้งที่ราคาเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ก่อนที่ตนเองจะมาปลูกราคาพริกมันสด อยู่ที่ 50-60 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ตนได้รับความเดือดร้อน เพราะได้ไปกู้เงินจากธนาคาร ธ.ก.ส. มาลงทุนทำไร่พริกนี้ หลักแสนบาท ยังไม่รู้ว่าจะเอาเงินจากที่ไหนไปส่ง ทุกวันนี้ทยอยเก็บพริกได้วันละ 1,300 กิโลกรัม ถึง 1,500 กิโลกรัม หักค่าจ้างคนเก็บพริกค่ารถก็แทบจะขาดทุนอยู่แล้ว จะไม่เก็บก็ไม่ได้เพราะพริกจะเหี่ยวขายไม่ได้ยิ่งจะทำให้ขาดทุนไปกันใหญ่ อุตส่าห์เปลี่ยนจากอาชีพทำไร่ข้าวโพกมาทำไร่พริกครั้งหวังว่าจะช่วยปลดหนี้ แต่กลับทำให้เป็นหนี้เพิ่มมากกว่าเดิมอีก