"ผบ.ฉก.ลาดหญ้า" ขอความร่วมมือ หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ป้องกันการหลบหนีเข้าเมือง ยาเสพติด และสินค้าหนีภาษี
28 ม.ค. 2564, 12:02
วันนี้ 28 ม.ค. 2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ฐานชุดปฎิบัติการพลเรือน หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า (กกล.สุรสีห์) บ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ที่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งอยู่ติดชายแดนบ้านพยาตองซู ประเทศเมียนมา พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รอง.ผบ.ฉก.ลาดหญ้า นายปกรณ์ กรรณวัลลี นอภ.สังขละบุรี พ.ต.ท.สมศักดิ์ ไชยสุด สส.สภ. ร.ต.อ.คณพศ หมวดผา หน.ฉก.ร้อย ตชด.134 นายรังสิมันต์ ทองสวัสดิ์ สาธารณสุข อ.สังขละบุรี ร.ต.อ.สุรพล ชุช่าง รอง.สวป. ตม กาญจนบุรี นายวีระ โตปิติ หน.สรรพสามิตสังขละบุรี นายสถาพร บุญสมจิตร์ผู้ใหญ่บ้าน บ้านพระเจดีย์สามองค์ ผู้ประกอบการโรงงาน พ่อค้า ประชาชน
โดยในที่ประชุมได้หารือถึงมาตรการ การป้องกันโควิต 19 ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี รวมทั้งมาตรการทำงานของฝ่ายความมั่นคง ปกครอง และสาธารณสุข ที่ผ่านมา จนนำมาสู่ความสำเร็จที่ทำให้ไม่พบผู้ป่วยโควิต 19 ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี ในระยะเวลาที่ผ่านมา เนื่องจากที่ผ่านมาเมื่อมีรายงานการพบผู้ป่วยในพื้นที่ กิ่ง อ.พยาตองซู ประเทศเมียนมา ซึ่งมีพื้นที่ติดกับบ้านพระเจดีย์สามองค์ คณะกรรมการโรคติดต่อ จ.กาญจนบุรี โดยนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี ได้มีคำสั่งระงับการใช้ช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักรของบุคคล ยานพาหนะ และสิ่งของ ณ.จุดผ่อนปรนทางการค้าพระเจดีย์สามองค์ (จุดผ่านแดนชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยว) โดยคำสั่งฯล่าสุด (ฉบับที่4) มีผลบังคับถึงวันที่ 3 พ.ย. 2564 นี้
แต่ที่ผ่านมายังพบมีการฝ่าฝืนคำสั่งดังกล่าวฯ เนื่องจากยังจับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่ง ทั้งในเรื่องการลักลอบขนยาเสพติด แรงงานเต่างด้าว สินค้าหนีภาษี เข้ามาในพื้นที่ อ.สังขละบุรี รวมทั้งการโจรกรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ผ่านช่องทางธรรมชาติและประตูหลังบ้าน สถานประกอบการ ในพื้นที่บ้านพระเจดีย์สามองค์ ซึ่งเป็นปัญหาหนึ่งที่หน่วยงานด้านความมั่นคงและฝ่ายปกครอง มีความเห็นร่วมกันว่าต้องมีการแก้ไข จนนำมาสู่การประชุมเพื่อชี้แจง ทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจากการลงพื้นที่สำรวจร่วมกันของเจ้าหน้าที่พบว่า ในพื้นที่ บ้านพระเจดีย์สามองค์ มีสถานประกอบการ และบ้านเรือนชาวบ้านที่มีประตูด้านหลังติดประเทศเพื่อนบ้าน(พยาตองซู)ทั้งหมด 36 แห่ง จึงได้ขอความร่วมมือให้ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกับ ทหาร ตำรวจ เข้าดำเนินการปิดประตูทั้งหมด
ซึ่งภายหลังจากการประชุม พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ พร้อมด้วย นายปกรณ์ กรรณวัลลี ได้นำทีมลงติดตามการปิดประตูและช่องทางทั้ง 36 แห่ง โดยเฉพาะ บริเวณบ้านประตูไม้ ซ.พานิขย์ 8 ซึ่งจากข้อมูลของเจ้าหน้าที่พบว่าเป็นช่องทางที่นำรถยนต์ Toyota fortunner สีขาว หมายเลขทะเบียน 9 กฌ 5568 กทม ซึ่งเป็นรถยนต์ที่แก๊งโจรกรรมรถยนต์ส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ไปเช่ามาจากบริษัทรถเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ก่อนนำออกไปขายให้นายทุนในพื้นที่ พยาตองซู ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา
และ ซ.เกษตร 8 ซึ่งเป็นโรงงานเก่า ซึ่งประตูด้านหลังโรงงานสามารถเปิดออกสู่ประเทศเมียนมาได้ โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้มาทำการแก้ไขก่อนทำการแก้ไขประตูให้อยู่ในลักษณะที่ปิดตาย ไม่สามารถเปิดได้อีก เพื่อป้องกันการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 22 มกราคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ประจำด่านน้ำเกิ๊ก สามารถจับกุม นายกตติภพ สังข์เทพ และนายกิตติภณ สังข์เทพ พร้อมยาบ้าจำนวน 8,000 เม็ด ที่ซุกซ่อนมาในหมอน ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่าเดินทางไปรับยาจากชายชาวเมียนมาในพื้นที่พยาตองซู โดยผ่านประตูโรงงานแห่งนี้ โดยในการลงพื้นที่ครั้งนี้ ได้มีการกำชับเจ้าของบ้านเรือน สถานประกอบการ ให้ปฎิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อฯ หากยังพบว่ามีการการทำความผิดโดยผ่านช่องทางเหล่านี้ จะต้องถูกดำเนินคดี เนื่องจากถือว่ามีส่วนร่วมในการกระทำผิดเช่นเดียวกัน
ต่อจากนั้น พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ ได้เดินทางประชุมร่วมกับส่วนราชการเมียนมา ประจำพื้นที่ กิ่ง อ.พยาตองซู บริเวณ ด่าน ตม.พยาตองซู ติดชายแดนไทย*เมียนมา เพื่อขอความร่วมมือในการทำงานร่วมกันในการป้องกันโควิต 19 การกระทำความผิดกฎหมายทั้งในเรื่องยาเสพติด การโจรกรรรมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ไปขายเมียนมา สินค้าหนีภาษี รวมทั้งการป้องกันการเดินทางข้ามแดนของประชาชนไทยและเมียนมา ในห้วงเวลานี้ ซึ่งทางการเมียนมาพร้อมให้ความร่วมมือและแลกเปลี่ยนข้อมูล เพื่อป้องกันปัญหาร่วมกัน โดยใช้เวลา 30 นาที ก่อนเดินทางข้ามแดนกลับมา ก่อนจะเปิดเผยกับผู้สื่อ