กาญจนบุรี เตรียมพัฒนา "น้ำพุโซดา" เป็นแหล่งท่องเที่ยว
16 ก.พ. 2564, 14:07
จากกรณีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ลงพื้นที่สำรวจพื้นที่เจาะบ่อน้ำบาดาลเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ในที่สุดสามารถเจาะบาดาลในพื้นที่หมู่ 12 บ้านสระตาโล ต.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย ได้ จำนวน 4 บ่อ ปริมาณน้ำที่พัฒนาได้ จำนวน 52 ลบ.ม./ชม. และที่หมู่ 19 บ้านทุ่งคูณ ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจาอีก จำนวน 2 บ่อ ปริมาณน้ำที่พัฒนาได้ 66 ลบ.ม./ชม. คิดปริมาตรรวม 1,700,000 กว่า ลบ.ม./ปี ประชากรจะได้รับประโยชน์ จำนวน15 หมู่บ้าน 7,000 กว่าครัวเรือน พื้นที่เกษตร 6,000 ไร่
แต่ที่สร้างความฮือฮาให้กับคนไทยทั้งประเทศก็คือรสชาติของน้ำซ่าคล้ายโซดา ซึ่งถือว่าเป็นบ่อบาดาลแห่งแรกของประเทศไทย แต่ขณะเดียวกันบ่อบาดาลที่มีรสชาติซ่าคล้ายโซดานั้นมีพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างเขต อ.บ่อพลอย และ อ.ห้วยกระเจา ชาวบ้านจึงเกรงว่าอาจจะเกิดปัญหาไม่สามารถกระจายน้ำไปให้ชาวตำบลห้วยกระเจาได้ใช้
โดยล่าสุด นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล แถลงผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำ โดยจากผลการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า น้ำแร่โซดา ทั้ง 3 บ่อ ใน ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี มีแร่ธาตุสูง มีไบคาร์บอเนต ทำให้มีรสซ่าเหมือนโซดา ซึ่งเป็นน้ำที่มีคุณภาพดีที่สุดในประเทศไทยเท่าที่เคยค้นพบมา โดยจากการนำคุณภาพน้ำแร่ในประเทศไทยมาเปรียบเทียบ นอกจากนี้ยังนำน้ำแร่จากต่างประเทศมาตรวจเปรียบเทียบพบว่า มีคุณภาพเทียบเท่ากับน้ำแร่ยี่ห้อดังในต่างประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นการค้นพบบ่อน้ำแร่ที่มีคุณภาพมากที่สุดในประเทศไทย ประชาชนสามารถดื่มได้ และปริมาณน้ำใต้ดินมีมากกว่า 500 ล้าน/ลบ.ม. นั้น
วันนี้ 16 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า บรรยากาศที่บริเวณบ่อบาดาลที่พบพุน้ำโซดา ซึ่งเป็นพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่าง หมู่ 19 บ้านทุ่งคูณ ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา และ หมู่ที่ 12 บ้านสระตาโล ต.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย พบว่า ประชาชนจากหลายพื้นที่เดินทางมาชมบ่อบาดาลอย่างไม่ขาดสาย โดยมีบรรดาพ่อค้าแม่ค้ามาตั้งโต๊ะขายอาหาร-น้ำ รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้ารถเข็นมาขายอาหารริมทางอีกด้วย ทำให้บรรยากาศคึกคักเป็นอย่างมาก ขณะที่เมื่อช่วงเย็นของวานนี้ นายวันชัย ศรีวงษ์ญาติดี นายอำเภอบ่อพลอย พร้อมด้วยผู้นำท้องถิ่นของ ต.บ่อพลอย และ นายอนุสรณ์ สง่าแสง ปลัดอาวุโสรักษาการนายอำเภอห้วยกระเจา พร้อมผู้นำท้องถิ่นของ ต.ห้วยกระเจา เพื่อหารือกันเกี่ยวกับที่ตั้งของบ่อบาดาล พร้อมกับนำแผนที่มาร่วมกันพิจารณา ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ ก่อนจะลงสำรวจพื้นที่ แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องนี้
นายสิริพงศ์ สืบเนียม อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลห้วยกระเจา เผยว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่น้ำแร่โซดา ที่พบเป็นน้ำแร่ที่ดี ทาง นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้สั่งการให้ นายทะนงศักดิ์ ล้อชูสกุล ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 (สุพรรณบุรี) นำเครื่องกรองน้ำมาติดตั้ง เพื่อให้ประชาชนที่เดินทางมาเที่ยวชมได้ทดลองชิมรสชาติของน้ำที่มีคุณภาพดีที่สุดในประเทศไทย อย่างไรก็ตามพื้นที่ตรงนี้ทางท้องถิ่นก็จะดำเนินการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพื่อสร้างงานสร้างรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป
ด้าน นายจีระเกียรดี ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เผยว่า กรณีที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลค้นพบแหล่งน้ำใต้ดิน ซึ่งเป็นความหวังของพี่น้องในเขตพื้นที่ที่ห่างไกล และแห้งแล้งมายาวนาน เช่น อ.ห้วยกระเจา อ.บ่อพลอย และ อ.เลาขวัญ เป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง
ส่วนกระแสข่าวเรื่องของข้อพิพาทในเรื่องของพื้นที่ที่พบพุน้ำโซดา ว่าเป็นพื้นที่ของ อ.บ่อพลอย หรือ อ.ห้วยกระเจา กันแน่ ตนขอชี้แจงว่า เรื่องนี้ไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะน้ำจากแหล่งน้ำดังกล่าวในที่สุดก็จะถูกนำมาใช้ในรัศมีที่เป็นไปได้ ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ของอำเภอใดก็ตาม ทางผู้นำท้องถิ่นจะต้องทำการจัดสรรให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนในพื้นที่./