วันนี้ 23 ก.พ. 64  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากชาวบ้านพบศพปริศนา คาดว่าเป็น”แม่เฒ่า” 68 ปี ที่หลงป่า หลังชาวบ้านได้เขาป่าไปตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ. 64   ล่าสุดชุดทหาร ม.พัน 9 จนท.หน่วยพิทักษ์ป่าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้อย-เขาประดู่ จนท.ป่าไม้ หน่วยน้ำดำ และตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก และกู้ภัยต่างๆ พร้อมชาวบ้านกลุ่มใหญ่เดินทางเข้าไปดูจุดเกิดเหตุ ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้อย-เขาประดู่ ใน ต.บ้านยาง  อำเภอวัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ซึ่งห่างจาก บ้านของ นางต้อย สิงโต ชาวบ้านหมู่ 14 ตำบลดอนทอง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลกประมาณ 4-5 กิโลเมตร จุดเกิดเหตุพบศพร่างมนุษย์ ไม่มีศีรษะ มีเพียงโครงกระดูกที่แห้งและเน่า ห่อหุ้มด้วยเสื้อผ้าสีค้ำ นอนอยู่ คลองน้ำ พอได้มีกลิ่นศพ จนท.กู้ภัยได้นำเส้นพลาสติกกั้น ห้ามบุคคลอื่นเข้าไป ขณะที่สิ่งของคือ กระเป๋าสตางค์สีดำรูปช้าง ตกอยู่ตอนบนของภูเขา ห่างจากร่าง นางต้อย ประมาณ 20  เมตร จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เดินตามหาศีรษะ ซึ่งอยู่ตอนเหนือประมาณ 500 เมตร อีกฝั่งของภูเขา  ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้อย-เขาประดู่ บริเวณ “ภูเขาม้วน” ซึ่งเป็นทางตัน ไม่สามารถเดินทางต่อไปไหนได้ เนื่องจากเป็นหุบเหว คาดว่า นางต้อง น่าจะเดินทางไปหาผักหวาน บังเอิญ”แม่เฒ่า” 68 ปี หลงทางเข้าป่าไป 21 วัน กระทั่งเหลือโครงกระดูก กับ เสื้อผ้าสีคล้ำๆ คาดว่า นางต้อย คงผลัดตกเขา จนสลบ หรือถูก”หมาป่า”รุมทำร้าย และรุมกัดศพในเวลาต่อไป  จนกระทั่งศีรษะหาย และลากห่างออกไป โดยที่กระเป๋าสตางต์ ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 

นางวาสนา อ๊อตเอก อายุ 49 ปี ลูกสาวนางต้อย เปิดเผยว่า วันนี้ได้นำเครื่องเซ่นไหว้ มาบอกกว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า ขอให้พบชิ้นส่วนคือ ศีรษะของแม่ เพื่อนำไปบำเพ็ญ กุศลให้ครบ มาดูจุดพบศพของแม่แล้ว ก็พบกระเป๋าสตางค์ของแม่ ซึ่งมีรูปช้างปกติใช้แขวนคล้องคอประจำตกอยู่ไม่ห่างจากศพของแม่ ส่วนเสื้อและกางเกงก็ยืนยันว่า เป็นแม่ของตน จึงมั่นใจแน่นอน พบร่างของแม่แล้ว  ซึ่งคนที่พบคนแรก ก็คือ ลูกหลานของตน เป็นผู้ชายหนุ่มเข้าป่าเพื่อมาเก็บผักหวานพอดี บังเอิญพบศพ กระทั่งโทรมาบอกตนว่า เป็นแม่ต้อยหรือไม่ วันนี้ได้มาดูที่เกิดเหตุแล้ว ก็มั่นใจว่า เป็นแม่ของตนเอง และพบเงินทองอยู่ในกระเป๋า