คดีคนร้ายก่อเหตุอุกฉกรรจ์จ่อยิง ร.ท.รุ่งเฉลิม  พันธุ์สวัสดิ์ หรือหมวดบอล อายุ 34 ปี รองผู้บังคับหมวดดุริยางค์ทหาร มณฑลทหารบกที่ 210(รอง ผบ.มว.ดุริยางค์ มทบ.210)  ในระยะเผาขนเสียชีวิตคารถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีบรอนซ์ ทะเบียน คขร 222 สงขลา ริมถนนเยื้องๆกองร้อยสนับสนุนการช่วยรบ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 3 (ร้อย.สสช.ร.3 พัน.3) หมวดยานยนต์ฯ (มว.ยานยนต์ ร.3 พัน.3) ในค่ายพระยอดเมืองขวาง ต.กุรุคุ อ.เมือง จ.นครพนม  เมื่อคืนวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

เบื้องต้นหลังเกิดเหตุใหม่ๆ นางกณิศฐ์ฐา พันธุ์สวัสดิ์ หรือจ๋า อายุ 32 ปี ภรรยาของผู้ตายให้ข่าวกับสื่อมวลชนว่า สาเหตุการตายเกิดจากการขัดแย้งกับผู้บังคับบัญชา ภายหลังมีนายทหารยืนยันว่า หมวดบอลกระทำความผิดนำน้ำมันหลวงไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ถ้าผู้บังคับบัญชาจะลงโทษนั้น มีโทษถึงขั้นไล่ออกจากราชการ แต่ท่านเมตตาจึงลงโทษเพียงภาคทัณฑ์ว่ากล่าวตักเตือนถือเป็นโทษที่เบาที่สุด

ส่วนที่นางจ๋าอ้างว่าขัดแย้งกับผู้บังคับบัญชาทั้งผัวทั้งเมีย ก็มีนายทหารระดับผู้บังคับบัญชาถามกลับไปยังนางจ๋าว่าควรพูดความจริงให้หมด อดีตเคยทำงานเป็นพนักงานชั่วคราวอยู่ฝ่ายกำลังพล ใช้วาจาอย่างไรกับผู้ติดต่อราชการ กระทั่งทางกองทัพบกมีหนังสือให้ปรับปรุงพฤติกรรมก้าวร้าว เมื่อมีการประเมินผลงานเพื่อต่อสัญญา มติคณะกรรมการจึงไม่เห็นสมควรต่อสัญญาดังกล่าว ทางด้านคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งไว้ 7 ประเด็น และมีผู้ต้องสงสัยอยู่ประมาณ 3-4 คน ล้วนเป็นทหารในค่าย เพราะรู้ทางหนีทีไล่ตลอดจนไทม์ไลน์ของผู้ตายเป็นอย่างดี

ล่าสุดวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 เหตุการณ์การสังหารโหดหมวดบอลผ่านไป 2 อาทิตย์ ทางคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งฝ่ายสืบสวนสอบสวน ได้เผยว่ามีความคืบหน้าไปมาก เหตุที่มีความล่าช้าเพราะสถานที่เกิดเหตุเป็นหน่วยงานราชการ มีอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมาก และเป็นความลับขั้นสูง ย่อมมีระเบียบเข้มงวดในการเข้าพื้นที่ ชุดทำงานจะเดินไปโดยพละการไม่ได้  แต่หากต้องการตรวจสอบบริเวณใดจุดใดทางทหารก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี

ทั้งนี้ ชุดพิสูจน์หลักฐานได้นำกระป๋องเครื่องดื่ม ก้นบุหรี่ ที่พบอยู่ไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอไว้  เพื่อมาเทียบเคียงกับดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัย พร้อมทั้งได้ให้ทหารในค่ายพระยอดเมืองขวาง ที่มีอาวุธปืนขนาด 11 มม. ประมาณ 20 กระบอก ที่ขึ้นบัญชีไว้กับทางมณฑลทหารบก 210(มทบ..210) มาตรวจหาคราบเขม่าดินปืน และยังปูพรมตรวจสถานที่ต้องสงสัยของทหารบางนาย โดยชุดสืบสวนที่บูรณาการทั้งภาค 4 ขอนแก่น,ตำรวจภูธรจังหวัดฯ และสืบสวน สภ.เมืองนครพนม ยังคงทำงานอย่างไม่ลดละ