ห้ามเด็ดขาด!! ปชช. - นทท. ทดลองดื่ม "น้ำดิบพุโซดาบาดาล"
11 มี.ค. 2564, 18:55
จากกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ( กนช. ) มอบหมายให้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งการให้นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เร่งดำเนินงานตามโครงการศึกษา สำรวจ และรูปแบบการพัฒนาน้ำบาดาลจากแหล่งน้ำกักเก็บในหินแข็งระดับลึกในพื้นที่ธรณีวิทยาโครงสร้างซับซ้อน เพื่อหาแหล่งน้ำบาดาลมาช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาว ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี ที่ประสบปัญหาภัยแล้งมานานกว่า 30 ปี
นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ จึงได้มอบหมายให้นายเกรียงศักดิ์ ภิระไร ผู้อำนวยการสำนักสำรวจและประเมินศัยภาพน้ำบาดาล น.ส.อัคปศร อัคราช ผู้อำนวยการส่วนวิจัยและพัฒนางานสำรวจน้ำบาดาล นายทะนงศักดิ์ ล้อชูสกุล ผอ.สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 (สุพรรณบุรี) พร้อมทีมงาน ลงพื้นที่สำรวจในภาคสนามอย่างเข้มข้นเป็นเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์ สามารถสำรวจพบแนวรอยแตกที่ซ่อนอยู่ข้างล่าง ในชั้นหินแปร จำพวกหินควอตซ์ไซต์ ซึ่งแนวรอยแตกดังกล่าว มีโครงสร้างคล้ายเส้นท่อขนาดใหญ่ ที่ไขว้กันไปมา ในหลายระดับความลึกและมีความกว้างประมาณ 2 กิโลเมตร ยาวมากกว่า 23 กิโลเมตร
และในที่สุดโครงการดังกล่าวก็ประสบความสำเร็จ เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเจาะพบน้ำบาดาลที่มีปริมาณน้ำใต้ดินเป็นจำนวนมหาศาล และที่สำคัญน้ำที่พุพวยพุ่งขึ้นมามีรสชาติหวานและซ่าคล้ายโซดา สร้างความฮือฮาให้กับคนไทยทั้งประเทศ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ 11 มี.ค.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายทนงศักดิ์ ล้อชูสกุล ผอ.สำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 2 (สุพรรณบุรี) เปิดเผยว่า บริเวณพุโซดาบ่อที่ 2 ที่เคยให้ประชาชนได้ทดลองชิมน้ำดิบนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการปรับรูปแบบใหม่ และดำนินการปรับภูมิทัศน์โดยรอบบ่อน้ำบาดาลเพื่อให้มันดูดีขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนที่มาท่องเที่ยวและมารับน้ำโซดาที่เราแจกจ่ายกลับไป ส่วนน้ำดิบพุโซดาที่ยังไม่ผ่านกระบวนการการกรองขณะนี้เราไม่อนุญาตให้ประชาชนได้ทดลองชิมแล้ว
โดยเราอนุญาตให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวมารับน้ำในส่วนที่ผ่านกระบวนการการกรองที่ได้มาตรฐานน้ำดื่มแล้วเท่านั้นโดยจะแจกจ่ายให้กับประชาชนคนละ 500 ซีซี ตามเดิมโดยสามารถมารับน้ำได้ที่บริเวณโรงกรองน้ำของเราซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยบริการกรอกน้ำให้ครบทุกคนที่มา
สำหรับจำนวนปริมาณของประชาชนและนักท่องเที่ยวจนถึงขณะนี้นั้นพบว่าในช่วงวันธรรมดามีนักท่องเที่ยวเดินทางมาอย่างน้อยวันละ 1,500-2,000 คน ส่วนวันหยุดเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านยังคงมีตัวเลขของนักอยู่ที่ประมาณวันละ 5,000 คนขึ้นไป จะพบได้ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวไม่ได้ลดน้อยลง
นายทนงศักดิ์ ล้อชูสกุล ผอ.สำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 2 (สุพรรณบุรี) เปิดเผยว่า ปัจจุบันกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้ทำการสำรวจและเจาะบ่อบาดาลในพื้นที่บ้านทุ่งคูณ หมู่ 19 ต.ห้วยกระเจา เพิ่มอีกจำนวน 4 บ่อ แต่ละบ่อลึกมากกว่า 100 เมตร ผลปรากฏว่าได้น้ำบาดาลแล้ว จำนวน 3 บ่อ และแต่ละได้น้ำมากกว่า 40 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมงขึ้นไปแต่น้ำที่ได้ทั้ง 3 บ่อนั้นไม่พุ
ส่วนกรณีที่ได้มีการประชุมกับทางจังหวัดกาญจนบุรี รวมทั้งทาง อบจ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อช่วงต้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมานั้น ที่ประชุมสรุปได้ว่า จะให้ทาง อบจ.กาญจนบุรี เข้ามาดำเนินการปรับสถานที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยเน้นให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดกาญจนบุรี รวมทั้งการใช้ประโยชน์จากน้ำแร่ โดยมีคณะทำงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาเป็นคณะทำงาน
โดยปัจจุบันท่านอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลนายศักดิ์ วิเชียรศิลป์ ได้มีข้อสั่งการลงมาโดยเน้นย้ำเกี่ยวกับความสะอาดของพื้นที่บริเวณโดยรอบ รวมทั้งเน้นในเรื่องของการวิเคราะห์น้ำดื่มให้ได้มาตรฐานน้ำดื่มทุกวัน ซึ่งท่านอธิบดีได้สั่งการมาให้นำรถปฏิบัติการวิเคราะห์คุณภาพน้ำบาดาลเคลื่อนที่มาประจำในพื้นที่ทุกคน
สำหรับน้ำแร่โซดาเพื่อรอแจกจ่ายให้กับประชาชนนั้น ปัจจุบันเรามีอัตราการผลิตอยู่ที่ 500 ลิตรต่อชั่วโมง แต่ถ้าภายใน 1 วัน หากเราผลิตน้ำอยู่ที่วันละ 2,000 ลิตร ก็จะสามารถแจกจ่ายให้กับประชาชนได้ประมาณ 4,000 คน แต่ทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับจำนวนคน ถ้ามีคนมาเที่ยวเป็นจำนวนมากเราก็สามารถผลิตได้มาก ขึ้นอยู่กับจำนวนของประชาชนที่มาในแต่ละวัน
ก็ขอเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ยังไม่เคยมา หรืออยากจะมาชิมน้ำพุโซดาที่ผ่านการกรองสามารถเดินทางมาได้ทุกวัน แต่อยากฝากไปถึงผู้ที่จะเดินทางมารับน้ำ ท่านสามารถรับน้ำแร่โซดาได้เพียงคนละ 500 ซีซี เท่านั้น และก็ไม่ควรดื่มเกินวันละ 500 ซีซี เพราะในแต่ละวันทุกคนได้รับแร่ธาตุที่เป็นอาหารจากส่วนอื่นที่เพียงพออยู่แล้ว
ด้านนายศิริพงษ์ พัฒนกุลเกียรติ นักท่องเที่ยวชาว กทม. กล่าวว่า ตนมาทำธุระที่อำเภอพนมวน หลังจากทำธุระเสร็จก็ได้พาแม่มาเที่ยวและทดลองดื่มน้ำแร่โซดาที่ผ่านการกรองซึ่งก็มีรสชาติซ่าคล้ายโซดาที่เปิดฝาชวดค้างคืนเอาไว้
ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นความโชคดีของชาวตำบลห้วยกระเจา และจังหวัดกาญจนบุรี ที่ทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้เจาะพบน้ำแร่โซดาที่เป็นธรรมชาติที่สามารถดื่มได้ด้วย อีกทั้งยังทำให้พื้นที่มีความคึกคักขึ้นเป็นอย่างมาก และหลังจากมีเรื่องของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามา ก็เป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้ด้วย
ที่สำคัญหากมีการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวจะถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเป็นอย่างมากเพราะจะเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพกระจายรายได้ให้กับชุมชนในพื้นที่ สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณท่านอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รวมทั้งสำนักทรัพยากรน้ำบาดาลเขต 2 (สุพรรณบุรี)และผู้ที่เกี่ยวข้องที่พลิกแผ่นดินที่เคยแห้งแล้งมาอย่างยาวนานให้กลับกลายเป็นพื้นที่ที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำ คาดว่าอีกต่อไปพื้นที่แห่งนี้จะไม่แห้งแล้งต่อไปอีกแล้ว