จากกรณีที่ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  จ.ศรีสะเกษ  เปิดเผย Timeline ผู้ป่วยรายที่  9 นับรวมกับโควิดรอบแรก และเป็นรายแรกของการติดเชื้อรอบ  2  เป็นเพศหญิง อายุ 49 ปี อาชีพค้าขายผัก ที่ตลาดบางแควันเดอร์ กรุงเทพฯ อาศัยอยู่กับสามี (ขายช่วงเวลา 02.00 - 12.00 น.) เมื่อวันที่  8  มี.ค.64  เวลา 09.00 น. เดินทางออกจากกรุงเทพฯ  พร้อมสามี  โดยรถยนต์ส่วนตัว  เวลา  19.00 น. ถึงบ้านพัก  ต.บ่อแก้ว  อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ พักค้างคืนกับลูกชาย 2 คน ในวันที่ 9 - 10 มี.ค. 64  อาศัยอยู่บ้าน  และมีการไปร่วมรับประทานอาหารร่วมกันกับแม่  และญาติๆ ที่อยู่บ้านติดกัน วันที่ 11 มี.ค.64  เวลา 16.00 น. ไปซื้อวัสดุก่อสร้างกับสามีที่ร้านวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่งในตัว อ.วังหิน  ผู้ป่วยสวมแมสขณะพูดคุยพนักงานขาย  แต่พนักงานขายไม่ได้สวมแมส ต่อมา วันที่ 14 มี.ค.64  เดินทางไป  รพ.ศรีสะเกษ  เพื่อตรวจโควิด พร้อมกับสามี  และบุตรชายคนเล็ก และเพื่อนบ้าน  วันที่ 16 มี.ค. 64  เวลา  18.00 น. รายงานผลการตรวจยืนยันจาก  รพ.ศรีสะเกษ  ตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนา  2019  ส่วนผลตรวจของสามี  ตรวจไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนา  2019  จากนั้น  รพ.ศรีสะเกษ  ได้ไปรับตัวผู้ป่วยมาเพื่อทำการรักษา  ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้  เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 64  ที่ รพ.ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  นพ.ชลวิทย์  หลาวทอง  ผอ.รพ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ขณะนี้ รพ.ศรีสะเกษได้รับคนไข้ที่ติดเชื้อโควิด -19 มาเข้ารับการรักษาพยาบาลแล้ว ซึ่งจากการที่คณะแพทย์ได้ทำการตรวจอาการของคนไข้รายนี้แล้ว ไม่พบว่ามีอาการบ่งชี้แต่อย่างใด ซึ่งตนได้นำผู้ป่วยเข้าไปอยู่ในห้องความดันลบ เป็นห้องพิเศษที่จัดทำขึ้นมาเพื่อป้องกันการกระจายเชื้อ ผู้ป่วยต้องพักรักษาตัวอยู่ในห้องนี้  เพื่อป้องกันไม่ให้ออกไปรับเชื้อหรือกระจายเชื้อด้านนอก โดยคณะแพทย์และพยาบาลที่เข้าไปทำการรักษาพยาบาลผู้ป่วยนั้น ต้องสวมชุดป้องกันเชื้อ ซึ่งทางโรงพยาบาลต้องกักตัวผู้ป่วยไว้ 14 วัน และหากผู้ป่วยไม่มีอาการก็จะให้กลับบ้าน เพื่อไปดูแลตนเองต่อที่บ้านต่อไป  ตนขอฝากถึงผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงว่า ขอให้ไปพบแพทย์ที่ รพ.ใกล้บ้านเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไม่ให้แพร่กระจายออกไปสู่คนอื่นได้อีกต่อไป