ตำรวจเตรียมออกหมายเรียก ศึก 2 สำนัก ตีกันวุ่น
17 มี.ค. 2564, 16:51
จากกรณีเมื่อวานวันที่ 16 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา มีสำนักสักยันต์ บ้านมีดี อยู่ย่านจรัลสนิทวงษ์ จำนวนกว่า 300 คน ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น หนุ่มฉกรรจ์ มาปิดล้อมสำนักสักยันต์อุทยานถ้ำเสือ ขณะที่กำลังประกอบพิธีไหว้ครู ภายในสำนักสักยันต์อุทยานถ้ำเสือพร้อมกับตะโกนด่าทอด้วยถ้อยคำต่างๆ นานา กล่าวหาว่าสำนักสักยันต์ของอาจารย์พยัคย์ ลบหลู่ดูถูกสำนักสักยันต์บ้านมีดี ทางเฟซบุ๊กโดยนำภาพภาษาจีน ของบ้านมีดี ซึ่งเป็นสัญลักษณ์เป็นที่รู้จักผู้เคารพศรัทธาของเหล่าลูกศิษย์บ้านมีดี แต่อาจารย์อ๋อง นครมนต์ ครูอาจารย์ของอาจารย์พยัคย์ เจ้าสำนักสักยันต์แห่งอุทยานถ้ำเสือ ได้นำมาถือโพสลงในเฟซบุ๊ชกว่าเป็นของแท้ออกมาจากอาจารย์อ๋อง ทำให้คนทั่วไปเข้าใจผิดสร้างความเสียหาย เปรียบเหมือนทางสำนักสักยันต์อุทยานถ้ำเสือไม่เคารพและลบหลู่สำนักสักยันต์บ้านมีดี ลูกศิษย์จึงยกกำลังมาปิดล้อม และบุกทำร้าย อาจารย์ที่กำลังประพิธีอยู่ด้านในถ้ำได้รับบาดเจ็บ และข้าวของเสียหายตัวอุทยานก็ได้รับความเสียหาย
ล่าสุด เมื่อเวลา 9.00 น.วันที่ 17 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมายังอุทยานถ้ำเสือ ตำบลดอนหญ้านาง อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบกับ นาย วชิรพงศ์ อ่องจุ้ย อายุ 37 ปีหรืออาจารย์โก๊ะเก่ง พบว่าที่เบ้าตาขวามีร่องรอยถูกร้ายจนเขียวช้ำ และก็ยังพาไปชี้ดูจุดที่ถูกทำลายข้าวของได้รับความเสียหายภายในอุทยานแต่ถูกจัดเก็บใหม่เรียบร้อยแล้ว ตรวจสอบตัวอุทยานถ้ำเสือพบว่ามีร่องรอยการใช้สเปรย์สีแดงฉีดพ่นตัวของอุทยานถูกเหยียบทำลายจนปูนแตกร้าวหักลงมาเป็นชิ้นๆข้าวของพัดลมกระจัดกระจายอยู่หน้าอุทยานและได้พูดคุยกับตัวอาจารย์กบเก่งเล่าให้ฟังว่า
วันที่เกิดเหตุคือเมื่อวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมาเป็นวันที่ทางอาจารย์อ๋องและอาจารย์พยัคฆ์ได้มีการจัดพิธีบวงสรวงอุทยานถ้ำเสือโดยมีการรวมตัวของกลุ่มระดับอาจารย์และลูกศิษย์ต่างสาย ต่างจังหวัด มารวมตัวกันทำพิธี บวงสรวงไหว้ครูที่อุทยานถ้ำเสือแห่งนี้จนเป็นเหตุให้ทางฝั่งบ้านมีดี ซึ่ง มีการระหองระแหงกันก่อนแล้วรู้ว่า เรื่องที่มีลูกศิษย์ ชาวจีน นำแผ่นป้ายภาษาจีนมาให้อาจารย์อ๋องถือ แล้วถ่ายรูป ลงโซเชียล แล้วรู้ว่า ทางกลุ่มของอาจารย์อ๋องกับอาจารย์พยัคฆ์จะรวมครูบาอาจารย์กันที่อุทยานแห่งนี้ทำให้ทางฝั่งบ้านมีดีนัดรวมพลกันมาที่อุทยานดังกล่าวและก็บุกเข้ามาทำร้ายครูบาอาจารย์ภายในอุทยานให้ ซึ่งขณะนั้นได้มีการทำพิธีโดยมีทั้งครูบาอาจารย์และลูกศิษย์กำลังทำพิธีอยู่ประมาณเกือบร้อยคนแต่ทั้งฝั่งบ้านมีดี ยกพวกมากันเป็นจำนวนมากโดยมาทั้งรถส่วนตัวและรถตู้ตั้งใจที่จะเข้ามาหาเรื่องและทำร้ายกัน จน มีคนได้รับบาดเจ็บและข้าวของเสีย ซึ่งอาจารย์เก่งกล่าวว่าสิ่งที่ทางฝั่งบ้านมีดีทำนั้นไม่สมควรเนื่องจากว่าเราเป็นถึงครูบาอาจารย์ควรจะวางตัวให้เหมาะสมหรือผู้คุยกันด้วยเหตุผลไม่สมควรที่จะยกกลุ่มพวกมาทำร้ายกันแบบนี้
ต่อมาผู้สื่อสอบถาม พ.ต.ท.อนันต์ ปานทอง ร้อยเวรประจำวัน เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์เมื่อวานได้มีคลิปเผยแพร่ เป็นข่าว ที่มีการก่อเหตุยกพวกมาทำร้ายร่างกายกันภายในอุทยานถ้ำเสือนั้นจนมีข้าวของเสียหายและรถยนต์ได้รับความเสียหาย 2 คัน เบื้องต้นยังไม่ได้มีใครเดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีเนื่องจากทางฝั่งผู้บาดเจ็บยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราชธานี
เมื่อช่วงบ่าย วันที่ 17 มีนาคม 2564 ที่สถานีตำรวจภูธรภาชี อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าไปพบกับ พ.ต.อ.กันตพงศ์ นิลขำ ผกก.สภ.ภาชี เพื่อสอบถามความคืบหน้ากรณีมีเหตุการณ์ ศึก 2 สำนัก ตีกันวุ่นขณะอีกฝ่ายทำพิธีบวงทรวง ภายในอุทยานถ้ำเสือ อำเภอภาชี ชนวนเหตุมีการพาดพิงกันในเฟตุบุ๊ก พบว่าทางอุทยานถ้ำเสือ ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีกับ ทางฝั่งกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว ใน 3 ข้อหาคือ 1.บุกรุก 2.ทำร้ายร่างกาย และ3.ทำลายทรัพย์สิน
ทางเจ้าพนักงานสอบสวน เจ้าของคดี จะมีการออกหมายเรียกทุกคนที่เกี่ยวข้องเข้ามาสอบปากคำและจะมีการดำเนินคดีกับบุคคลที่อยู่ตามในคลิปภาพทั้งหมด
พ.ต.อ.กันตพงศ์ นิลขำ ผกก.สภ.ภาชี เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ได้มีการไหว้บวงสรวงสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของสำนักสักยันต์เสือสมิง ในเขตภาชี ได้มีการทำพิธีตั้งแต่เช้าพอตกช่วงเวลาประมาณ 10 โมงเช้าก็มีกลุ่มอีกสำนักหนึ่งทราบชื่อภายหลังสำนักบ้านมีดี ได้เข้ามาขอคุยกับอาจารย์สำนักสักยันต์เสือสมิง เพื่อจะคุยเจรจากันให้ขอโทษในการโพสต์ในสื่อโซเชียลมีการทะเลาะกันในสื่อโซเชียล ส่วนอาจารย์ในสำนักเสือสมิงเกรงจะเกิดภัยอันตรายเพราะสำนักบ้านมีดีมากันเป็น 100 คนกลัวจะไม่ปลอดภัย ขนาดอยู่ระหว่างเจรจากันอยู่นั้นก็มีกลุ่มคนฮือกันเข้าไปเข้าไปรุมทำร้ายในสำนักทำให้เกิดความเสียหายเกิดการบาดเจ็บในสำนักขึ้น
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดกำลังทั้ง สภ.ภาชี สภ.ท่าเรือ สภ.อุทัย เพื่อมาตรึงกำลังระงับเหตุไม่ให้เกิดเหตุแต่เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมาก อีกทั้งกับฝูงชนกลุ่มนี้มีความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นมีความเชื่อในการลงของจึงเกิดความ ฮึกเหิมกล้าเข้าปะทะกล้าชกต่อยเข้าตีรันฟันแทงเลยไม่ได้เกรงกลัวเจ้าหน้าที่ จึงไม่สามารถที่จะยับยั้งต้านทานกำลังของทั้งสองฝ่ายได้ ทำให้ผู้บาดเจ็บก็มีทั้งอาจารย์คนที่อยู่ในสำนักหลายท่าน ระดับอาจารย์เองบาดเจ็บทั้งถูกชกถูกตีด้วยไม้
เบื้องต้นเมื่อวานทางผู้เสียหายได้เดินทางมาแจ้งความที่ สภ.ภาชี ใน 3 ข้อหาคือ 1.บุกรุก 2.ทำร้ายร่างกาย และ3.ทำลายทรัพย์สิน ส่วนรายละเอียดที่ผู้บาดเจ็บยังรักษาตัวอยู่จะทยอยเข้ามาแจ้งความเพิ่มต่อไป
ทั้งนี้เนื่องจากยุคปัจจุบันเป็นยุคโซเชียลไม่เป็นการยากที่จะดึงกลุ่มคนซึ่งมีหลายคนได้ถ่ายมือถือไลฟ์สด ซึ่งตอนนี้ชุดสืบสวนกำลังรวบรวมภาพต่างๆจากสื่อออนไลน์จากข่าวมาให้ผู้เสียหายชี้ตัวว่าว่าใครเป็นใคร ข้อดีของสื่อโซเชียลทำให้ตำรวจที่ดูแลไลฟ์สดเห็นว่าคนพวกนี้อยู่ไหนคือใครเราสามารถเช็คได้เลยภายในวันนั้น อย่างเช่นกลุ่มนี้มาจากไหนตำรวจที่ดูก็ได้รู้ว่าคนกลุ่มนี้อยู่ในพื้นที่นี้ คือข้อดีของโซเชียล ส่วนข้อเสียของโซเชียล ก็คือเหตุการณ์แบบนี้เกิดความขัดแย้งกันโดยที่ไม่เข้าใจกันเพราะแค่ผ่านโซเชียล ทั้งๆที่เจ้าสำนักทั้งสองนั้นก็รักใคร่ชอบคอกันมีการเคารพซึ่งกันและกันศรัทธาในสิ่งเดียวกันแต่เพราะว่าสื่อโซเชียลทำให้เกิดการขัดแย้งกันในระหว่างลูกศิษย์ลูกหา อย่างไรก็ขอให้มีสติถ้าคุยได้ก็คุยจะช่วยให้สังคมน่าอยู่มากขึ้นและก็จะได้ไม่เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นโรงขึ้นศาลต่อไป