วันนี้ ( 21 มี.ค.64 ) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ในฐานะ โฆษก บช.น. พร้อมเวย พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) แถลงสรุปภาพรวมการชุมนุมของกลุ่ม Redem ในวันที่ 20 มี.ค.64 โดย พล.ต.ต.ยิ่งยศ ระบุว่า การชุมนุมในขณะนี้ ยังอยู่ในการประกาศ พระราชกำหนดฉุกเฉิน และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมในที่สาธารณะพร้อมย้ำความจำเป็นในการใช้เครื่องกีดขวาง เนื่องจากกังวลว่า การชุมนุมจะกระทบต่อสถานที่สำคัญ อีกทั้ง ไม่ต้องการให้การชุมนุมนำไปสู่การกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงจำเป็นต้องระงับยับยั้งไว้ไม่ให้เกิดความเสียหายต่อผู้ชุมนุมและสถานที่สำคัญ การใช้ยุทธวิธีเป็นไปตามหลักสากล และทุกขั้นตอนมีการประกาศแจ้งเตือนทุกระยะ ซึ่งตำรวจจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

ด้านพล.ต.ต.ปิยะ ระบุว่า ได้มีการชุมนุมในสองจุดที่บริเวณท้องสนามหลวงบริเวณหน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์ และบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดย 17.22น. ผู้ชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เดินทางเข้าพื้นที่ท้องสนามหลวง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการประกาศแจ้งเตือนกลุ่มผู้ชุมนุม ว่าการชุมนุมเข้าข่ายความผิดกฎหมาย แต่กลุ่มผู้ชุมนุมขับไล่ตำรวจออกนอกพื้นที่

จากนั้น ในเวลา 18.00 น.กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มมีการเข้ารื้อถอนแนวกีดขวาง เคลื่อนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ มีการใช้ก้อนหิน  ลูกแก้ว ลูกเหล็ก รวมทั้งประทัดยักษ์ โยนใส่เจ้าหน้าที่ และมีผู้ชุมนุมบางส่วนพยายามฝ่าแนวกั้นเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม และมีความพยายามทำลายทรัพย์สินราชการ เช่น กล้องวงจรปิด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการประกาศแจ้งเตือนซ้ำอีกครั้ง โดยขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมยุติการกระทำที่ผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตามกลุ่มผู้ชุมนุมยังมีความพยายามในการบุกเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ในสถานที่สำคัญ ตำรวจจึงจำเป็นต้องใช้ยุทธวิธีฉีดน้ำแรงดันสูง และผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมให้พ้นจากบริเวณดังกล่าว

เวลา 20.50 น. ตำรวจสามารถรักษาพื้นที่ท้องสนามหลวงไว้ได้ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมกระจายตัวออกไปในบริเวณสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า และบริเวณแยกคอกวัว อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ต่อมาเจ้าหน้าที่พบมีกลุ่มผู้กระทำผิดจุดไฟขึ้นหลายแห่ง บริเวณถนนราชดำเนินและบริเวณหน้ากองสลากและท้องสนามหลวง โดยพบว่ารถยนต์ทรัพย์สินของตำรวจได้รับความเสียหายหลายคัน