แรงงานเมียนมา ลอบไทยทุกวัน ทหารชุดลาดตระเวนจับกุมได้อีก 15 ราย
13 เม.ย. 2564, 11:13
จากนโยบายของ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร.9 กกล.สุรสีห์ พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า)
ให้สนธิกำลังร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัด รวมทั้งลงพื้นที่หาข่าวเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายทุกชนิดในเขตพื้นที่รับผิดชอบอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด และการลักลอบนำพาแรงงานชาวเมียนมาเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ในช่วงการแพร่ ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ที่กำลังแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี
วันนี้ 13 เม.ย. 2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ทหารชุดลาดตระเวน ที่ 4 จุดตรวจร่วมบ้านช่องเขาหนีบ ได้ออกลาดตระเวน ร่วมกับชุดร้อย คร. ชุดปฏิบัติการข่าว กองกำลังสุรสีห์ ที่ 105 กองร้อยทหารพรานที่ 1111 และหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ ได้ทำการจับกุมผู้กระทำผิด ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ฝ่าฝืน คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 5522/63 ลง 29 ธ.ค.63 และฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 โดยการจับกุมครั้งนี้ได้ชาวเมียนมา ชาย - หญิง จำนวน 15 ราย ได้บริเวณ ดงยาง บ้านพุน้ำร้อน ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี NR 073448 พร้อมกับวัดอาการไข้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ผลการตรวจพบอุณหภูมิในร่างกายเป็นปกติไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส
โดยการจับกุมทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีต่างด้าวแอบลักลอบหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่รับอนุญาต ทหารชุด มว.ลว.ที่ 4 จึงทำการจัดชุด ลาดตระเวนเข้าตรวจบริเวณดังกล่าว แล้วได้พบผู้ต้องสงสัยจำนวน 15 คน พร้อมสัมภาระ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวและตรวจค้น จากการตรวจค้นพบว่าทั้งหมดไม่มีเอกสารหรือหนังสือเดินทาง เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุม ส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
เบื้องต้นจากการสอบถามผู้ต้องหาให้การว่าพวกตนเดินทางมากจาก ทวาย ประเทศพม่า โดยลัดเลาะตามเส้นทางตามธรรมชาติตั้งแต่เมื่อวันที่ ที่ 10 เม.ย. 64 มาถึงบ้านพุน้ำร้อน ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ช่วงเช้าในวันที่ 13 เม.ย. 64 และจะมีคนมารับไปส่ง ที่ จ.สุพรรณบุรี ต่อไป โดยพวกตนได้จ่ายเงินให้นายหน้ารายหัวละเป็นจำนวนเงิน 10,000 – 20,000 บาท แต่ได้มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้เสียก่อน ยังไม่ทันเดินทางไปยังจุดที่ทำงาน ส่วนเงินได้จ่ายให้กับนายหน้าไปหมดแล้วเช่นกัน และนายหน้าก็ได้หลบหนีไปก่อนเจ้าหน้าที่ไปถึง จากการสังเกตในระยะนี้จะมีแรงงานต่างด้าวจะหลบหนีเข้ามาทำงานในประเทศไทย ถี่เกือบทุกวัน ครั้งละเป็นจำนวนมาก น่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ภายในบ้านของเขาสถานการณ์ไม่สงบเกิดปัญหาการสู้รบ ทุกคนจึงต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดในดาบหน้า และแรงงานทั้งหมดได้ส่งตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับแรงงานทั้งหมดประกอบด้วย
๑.นางโป โป (ไม่มีนามสกุล) อายุ ๑๙ ปี สัญชาติพม่า
๒.นางโบ โบ๊ะ (ไม่มีนามสกุล) อายุ ๓๘ ปี สัญชาติพม่า
๓.นางเห่ว โท (ไม่มีนามสกุล) อายุ ๒๙ ปี สัญชาติพม่า
๔.นางเม ตู (ไม่มีนามสกุล) อายุ ๒๐ ปี สัญชาติพม่า
๕.นางมา ชู (ไม่มีนามสกุล) อายุ ๓๐ปี สัญชาติพม่า
๖.นาวสุ (ไม่มีนามสกุล) อายุ ๓๓ ปี สัญชาติพม่า
๗.นางตู ซา (ไม่มีนามสกุล) อายุ ๓๓ ปี สัญชาติพม่า
๘.นายวินนัย (ไม่มีนามสกุล) อายุ ๓๓ ปี สัญชาติพม่า
๙.นายวินทะ (ไม่มีนามสกุล) อายุ ๔๐ ปี สัญชาติพม่า
๑๐.นายเตยทาย (ไม่มีนามสกุล) อายุ ๓๕ ปี สัญชาติพม่า
๑๑.นายตูตู (ไม่มีนามสกุล) อายุ ๒๖ ปี สัญชาติพม่า
๑๒.นายเส็งโก (ไม่มีนามสกุล) อายุ ๒๖ ปี สัญชาติพม่า
๑๓.นายเงยชาอู (ไม่มีนามสกุล) อายุ ๑๘ ปี สัญชาติพม่า
๑๔.นายคะวินจอ (ไม่มีนามสกุล) อายุ ๑๙ ปี สัญชาติพม่า
๑๕.นายสีทูจอ (ไม่มีนามสกุล) อายุ ๑๘ ปี สัญชาติพม่า