วันที่ 19 เมษายน 2564 เวลา 11.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ พร้อมด้วย นพ.มานพ ฉลาดธัญญกิจ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม (สสจ.ฯ) นพ.สมโภชน์ กังวานธีรวัฒน์ ผอ.รพ.นครพนม ร่วมแถลงข่าวการตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด เพิ่มจำนวน 10 ราย รวมยอดสะสมผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระลอกใหม่ สายพันธุ์อังกฤษ จำนวน 43 ราย ณ ห้องประชุมพระธาตุนคร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครพนม

 ผวจ.นครพนม กล่าวว่าจากจำนวนตัวเลขที่ดูเพิ่มขึ้น เป็นผลขจากการตรวจค้นหาเชื้อเชิงรุกไม่ได้มารอตั้งรับ ไล่เช็คไทม์ไลน์ผู้ป่วยยืนยันผลก็ส่งทีมแพทย์นำตัวมาตรวจทันที ถ้าตั้งรับอยู่ในที่ตั้งรอผู้ป่วยมีอาการเข้ามาหาหมอ ถึงเวลานั้นเชื้อแพร่กระจายไปไหนบ้างแล้ว นี่เราจับตรวจผู้มีสัมผัสเสี่ยงกับผู้ป่วยทุกราย จึงเห็นได้ว่าคนที่ทีมแพทย์นำมาตรวจนั้นไม่แสดงอาการใดๆเลย พอตรวจอย่างละเอียดพบว่าติดเชื้อโควิดก็รีบดำเนินการรักษาทันที การรักษาก็ไม่ยุ่งยากอะไร เพราะเราตรวจหาเชื้อเจอก่อน บางรายไม่จำเป็นให้ยาต้านไวรัสเลย แต่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ตามขั้นตอน  นี่คือผลดีของการตรวจเชิงรุก

ด้าน นพ.มานพ ฉลาดธัญญกิจ สสจ.นครพนม กล่าวว่าในจำนวน 10 รายที่พบล่าสุดนี้ พบ 1 รายเป็นพ่อของสาวคริสตัสคลับชาวอำเภอท่าอุเทน อายุ 53 ปี ซึ่งรายนี้ลูกสาวคนที่นำเชื้อมาแพร่ เดินทางกลับภูมิลำเนาเมื่อวันที่  4 เมษายนฯ ด้วยสายการบินพาณิชย์  โดยมีพ่อกับแม่และลูกสาววัย 5 ขวบไปรอรับที่สนามบิน จากนั้นก็มีการสังสรรค์กับหมู่ญาติและเพื่อน ในจำนวนนั้นมีเพื่อนหญิง 1 คนที่อยู่บ้านแก้วปัดโป่งหมู่ 9 ต.ไชยบุรี ได้มาร่วมกินดื่มและนอนค้างที่บ้านของสาวคลับดังถึง 2  คืน วันต่อมาก็พากันไปเที่ยวที่หาดคำสมบูรณ์ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ โดยไปด้วยกันทั้งหมด 4 คน แต่ขากลับมีเพื่อนขอติดรถมาด้วยอีก 1 คน วันที่ 7 เมษายน จึงขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ และมีอาการจึงไปตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด แต่เหตุที่ทางจังหวัดไม่ได้นับว่าเป็นผู้ป่วยเพราะก่อนหน้านี้หญิงสาวรายดังกล่าวไปตรวจหาเชื้อที่ กทม.แล้ว แต่ไม่ยอมฟังผลตรวจ

 เมื่อไล่เช็คไทม์ไลน์แล้วก็นำตัวผู้ใกล้ชิดมาตรวจ พร้อมปิดหมู่บ้านตาลปากน้ำ หมู่ 11 จำนวน 7 หลังที่อยู่ละแวกนั้น ปรากฏว่าแม่ ลูกสาว และเพื่อนหญิงติดเชื้อรวม 3 ราย ส่วนพ่อตรวจครั้งแรกผลเป็นลบ จึงให้กักตัวเองอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน แต่เมื่อนำตัวมาตรวจซ้ำครั้งที่ 2 จึงพบเชื้อโควิดดังที่กล่าวข้างต้น

 ส่วนรายต่อๆมาเป็นคลัสเตอร์จากสถานบันเทิงชื่อดังในจังหวัดนครพนม  ที่ทีมแพทย์นำตัวมาตรวจค้นหาเชื้อแบบเชิงรุกรวม 261 ราย ล้วนเป็นพนักงานในผับดัง 3 แห่ง ทั้งนี้เป็นการเช็คไทม์ไลน์จากจุดกำเนิดของผู้จัดการร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ที่หลังจากร้านตัวเองปิดก็มาเที่ยวต่อที่ผับดังกล่าว คาดว่ามีการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อจากคลับทองหล่อ หรือจากพนักงานชงเหล้าที่ต้องสัมผัสนักเที่ยวทุกโต๊ะ และในจำนวนนั้นเป็นนักเที่ยวจากคลับทองหล่อ และยิ่งอยู่ในสถานที่แออัดอากาศไม่ถ่ายเทจึงทำให้เชื้อแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว หลังตรวจหาเชื้อเชิงรุกล่าสุดจึงพบเพิ่มอีก 8 ราย รวมยอดผู้ติดเชื้อคลัสเตอร์สถานบันเทิงแห่งนี้ 25 ราย

ส่วนผู้ติดเชื้ออีก 1 รายที่ไม่เกี่ยวกับสถานบันเทิงเป็นชายอายุ 19 ปี นักศึกษาเทคนิคแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ภูมิลำเนาอยู่อำเภอบ้านแพง รู้ว่าตนเองมาจากพื้นที่เสี่ยงจึงเข้าขอรับการตรวจหาเชื้อ ผลครั้งแรกเป็นลบจึงกลับไปกักตัวอยู่ที่บ้าน นับไปอีก 10 วันหวนมาตรวจซ้ำครั้งที่ 2 จึงพบเชื้อโควิด ทั้งหมดอยู่ในความดูแลของแพทยืเรียบร้อยแล้ว

 ขณะที่ นพ.สมโภชน์ กังวานธีรวัฒน์ ผอ.รพ.นครพนม กล่าวว่า จำนวนผู้ป่วยโควิดรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมี 24 ราย มีเพียง 4 รายที่มีอาการเหนื่อยอ่อนเพลีย แพทย์จึงให้ยาต้านไวรัส ส่วนที่เหลือ 20 รายมีเพียงไข้หวัดเล็กน้อยจึงรักษาตามอาการ  ไม่ต้องให้ยาต้านไวรัส และยืนยันว่ามีเตียงคนไข้ไว้รองรับพอสมควร หากอย่างไรก็มี รพ.จิตเวชฯไว้สำรอง ส่วนโรงพยาบาลสนามที่โรงยิมสนามกีฬาจังหวัดฯ เป็นเพียงการวางแผนรองรับกรณีที่มีผู้ติดเชื้อเยอะจริงๆ เท่านั้น

 นอกจากนี้ ผวจ.นครพนม กล่าวว่าเมื่อคลัสเตอร์สถานบันเทิงผ่านไป ยังเหลือกลุ่มก้อนหนึ่ง ที่เดินทางกลับจากเที่ยวสงกรานต์ต่างจังหวัด และนักศึกษาที่ต้องกลับเข้าเรียนตามปกติ ทีมแพทย์เตรียมแผนตรวจเชิงรุกกลุ่มนี้ไว้เช่นกัน จึงอยากให้กลุ่มดังกล่าวเข้าขอรับการตรวจค้นหาเชื้อ เพื่อเป็นการป้องการแพร่กระจายไปสู่คนในครอบครัว

 ส่วนบริเวณศาลายงใจยุทธ ที่ใช้เป็นจุดคัดกรองค้นหาเชื้อโควิดชั่วคราว 500คน/วัน หลังเปิดให้กลุ่มนักเที่ยวสถานบันเทิง 3 แห่งมาตรวจ วันแรกวันที่ 17 เมษายนฯครบ 500 คนภายในเวลาอันรวดเร็ว พอวันที่ 18 เมษายนฯ ทีมแพทย์เพิ่มสรรพกำลังตรวจเป็น 850 คน/วัน  และล่าสุดวันที่ 19 เมษายนฯ มีผู้เข้าขอรับการตรวจเพียง 350 รายเท่านั้น ซึ่งผลตรวจจะทยอยออกมาตามลำดับ หากเป็นไปตามที่คาดการณ์จะมีผู้ป่วยจากสถานบันเทิงเพิ่มขึ้นอีกจำนวนหนึ่ง จากนั้นจำนวนผู้ป่วยจะดิ่งหัวลงจนเข้าสู่โหมดปกติ

 ล่าสุด นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.นครพนม ออกคำสั่งให้ผู้เดินทางจากพื้นที่สีแดง จำนวน 18 จังหวัด ถ้าเดินทางเข้าจังหวัดนครพนมต้องเข้าสู่กระบวนตรวจหาเชื้อโควิดและกักตัว คือ 1.กรุงเทพฯ 2.เชียงใหม่ 3.ชลบุรี 4.สมุทรปราการ 5.ประจวบคีรีขันธ์ 6.สมุทรสาคร 7.ปทุมธานี 8.นครปฐม 9.ภูเก็ต 10.นครราชสีมา 11.นนทบุรี 12.สงขลา 13.ตาก 14.อุดรธานี 15.สุพรรณบุรี 16.สระแก้ว 17.ระยอง และ 18.ขอนแก่น โดยทั้ง 18 จังหวัดนี้ต้องมีใบรองรับผลการตรวจยืนยัน ถ้าไม่มีต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดนครพนม โดยต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง และเมื่อผลตรวจออกมาเป็นลบจะต้องกักตัวอยู่ในบริเวณ 14 วัน เช่น บ้าน ที่พักอาศัย ฯลฯ  ตามมาตรการป้องการโรคโควิด