ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วาฬบรูด้าน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 4 ตัน ต่อตัวพากันแหวกว่ายหากินทะเลหน้าน่านน้ำหน้าเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี อย่างสนุกสนานทำให้นักท่องเที่ยวและไต๋เรือที่พบต้องรีบคว้าโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายภาพเท่าที่ได้เก็บไว้ทันที เนื่องจากไม่ค่อยได้พบมากนักโดยบรรยากาศบริเวณน่านน้ำทะเลศรีราชา เกาะสีชังจังหวัดชลบุรี

นักท่องเที่ยวที่มีชื่อว่า “Srijarung Ronghatsuk” ได้ไปพักผ่อนที่เกาะสีชัง และไต๋เรือ “ไต๋อะเเพตกปลาบ้านสีฟ้าบางพระ” ที่นำเรือออกไป แล้วพบวาฬบรูด้า  สัตว์สงวนลำดับที่ 16 ของประเทศไทย  2 คู่ ซึ่งมีน้ำหนักแต่ละตัวไม่ต่ำกว่า 4 ตัน และแยกเป็นคู่แหวกว่ายหากินไม่ห่างกัน ได้พากันแหวกว่ายหากินฝูงปลาเล็กเช่น ปลากะตัก ที่ว่ายกันเป็นฝูง บริเวณร่องน้ำลึกที่เรือสินค้าผ่านบริเวณหน้าเกาะสีชังและหลังเกาะสีชัง อย่างสนุกสนานไปมาสร้างความตื่นตาตื่นใจแก่นักท่องเที่ยวไปที่พาครอบไปพักผ่อนที่เกาะสีชังและไต๋เรือที่ไปเจอเป็นอย่างมากจนต้องรีบคว้าโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายภาพเก็บไว้เท่าที่ถ่ายได้ทันเพราะพบเห็นได้ไม่ง่ายนัก และวาฬบรูด้ายังขึ้นมาอวดโฉมให้เห็นพอแวบๆตอนพุ่งหัวขึ้นเหนือน้ำเพื่อล่าเหยื่อ หรือโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำอีกทีก็ตอนหายใจ โดยจะโผล่ส่วนหัวที่มีช่องหายใจขึ้นเหนือผิวน้ำแล้วหายใจออกอย่างแรง และทำให้เกิดฝอยละอองน้ำพุ่งขึ้นสูงถึง 3-4 เมตร  ก่อนจะหายใจเข้าแล้วทิ้งตัวดำลงไปใต้ผิวน้ำ เมื่อมองจากที่ไกลๆจึงเห็นแต่ฝอยละอองน้ำที่พุ่งขึ้นมาเหนือผิวน้ำกับเงาตะคุ่มๆของลำตัวหรือวงน้ำขนาดใหญ่ เท่านั้น  

ซึ่งทำให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์บริเวณน่านน้ำทะเลหน้าเกาะสีชัง– ศรีราชา ว่ายังมีความอุดมสมบูรณ์ทางทะเลเป็นอย่างมาก  และวาฬบรูด้า  ยังถือเป็นสัตว์ประจำถิ่นในอ่าวไทยซึ่งได้มีการประกาศให้เป็นสัตว์ป่าสงวนลำดับที่ 16 ในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ.ศ. 2535 อีกด้วย