เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



น่าสนใจ! หมอยง เผยพบระดับภูมิต้านทานสูงมาก ในผู้ฉีดวัคซีนโควิด 2 ครั้ง ที่ต่างชนิดกัน


3 พ.ค. 2564, 09:04



น่าสนใจ! หมอยง เผยพบระดับภูมิต้านทานสูงมาก ในผู้ฉีดวัคซีนโควิด 2 ครั้ง ที่ต่างชนิดกัน




ศาสตราจารย์ นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ล่าสุด ได้ออกโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เปิดเผยเกี่ยวกับผลการศึกษาภูมิต้านทานที่เกิดขึ้น หลังฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ( AstraZeneca) ในคนไทย เข็มแรกเป็นระยะเวลา 1 เดือน จากผู้รับวัคซีนจำนวน 61 คน ในเบื้องต้น ภูมิต้านทานที่ตรวจพบ มีการตอบสนอง ตรวจวัดภูมิต้านทานได้ถึงร้อยละ  96.7  เมื่อเปรียบเทียบกับการตรวจวัดภูมิต้านทานในผู้ป่วยที่หายจากการติดเชื้อ เป็นระยะเวลา 4- 8 สัปดาห์ตรวจพบได้ร้อยละ 92.4 ดังแสดงในรูป 




ระดับภูมิต้านทานที่ตรวจวัดได้ มีค่าตัวกลางเรขาคณิตเท่ากับ 40.61 u/ml เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ป่วยที่หายจากการติดเชื้อ มีค่าเท่ากับ 60.86 u/ml ดังแสดงในรูป
 

พบว่าระดับภูมิต้านทานที่พบเพศหญิงจะให้ระดับภูมิต้านทานที่สูงกว่าเพศชาย ผู้ที่อายุที่น้อยกว่า 60 ปี จะมีระดับภูมิต้านทานที่สูงกว่าผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ขณะนี้กำลังรอวิเคราะห์ข้อมูลที่มีจำนวนมากขึ้นกว่านี้ และจะมีการตรวจเลือดหาภูมิต้านทานก่อนฉีดเข็มที่ 2 อีก 1 ครั้ง และหลังเข็ม 2 แล้ว 1 เดือนภูมิต้านทานน่าจะมีระดับสูงมาก และอยู่นาน


จากข้อมูลดังกล่าวพอสรุปได้ว่าแม้จะฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ( AstraZeneca)เพียงเข็มเดียว ระดับภูมิต้านทานที่ตรวจวัดได้ก็เป็นที่น่าพอใจ มีอยู่ 1 ราย ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวค (Sinovac) เข็มแรกแล้วเกิดอาการแพ้ เลยฉีดเข็มที่ 2 ใน 3 อาทิตย์ต่อมา ด้วยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ( AstraZeneca) และตรวจเลือดเมื่อ 1 เดือนหลังฉีดวัคซีน AZ พบระดับภูมิต้านทานสูงมาก สูงถึง 241 u/ml  


อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการศึกษาการฉีดวัคซีนเปลี่ยนชนิดกัน ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ฉีดวัคซีนต่างชนิดกัน ขอความกรุณาติดต่อผม ขอตรวจภูมิต้านทานด้วย เพื่อเก็บเป็นข้อมูล และรวมถึงอาการข้างเคียงที่อยากทราบมาก และการเปลี่ยนชนิดของวัคซีนเป็นเรื่องที่น่าศึกษาอย่างยิ่ง 
การปูพรมฉีดเข็มเดียวไปก่อนให้ได้ประชากรมากที่สุด ด้วยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ( AstraZeneca)จะได้ประโยชน์สูงสุด แล้วตามด้วยกระตุ้นอีก 10 ถึง 12 สัปดาห์ต่อมา หรือนานกว่านั้น 


หมายความว่าในช่วง 3 เดือนแรก น่าจะปูพรมการฉีดวัคซีนไปเลย ถ้าฉีดได้เดือนละ 10 ล้านคน ก็สามารถปูพรมไปได้ถึง 30 ล้านคนทีเดียว แล้วหลังจากนั้นก็ตามกระตุ้นรวมทั้งฉีดรายใหม่เพิ่มขึ้นด้วย ก็จะได้เป้าหมายอย่างรวดเร็ว และถ้ามีวัคซีนชนิดอื่นมาเสริมด้วยแล้ว จะทำให้การให้วัคซีนกับประชาชนหมู่มากประสบผลสำเร็จเร็วยิ่งขึ้น 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.