ที่สุมปลายักษ์ ต.ต้นตาล อ.สองพี่น้องจ.สุพรรณบุรี เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 2 พ.ค.มีฝนตกหนักลมพายุพัดกระโชกอรง นานกว่า30นาที ในพื้นที่ ตำบลต้นตาล อำเภอสองพี่น้อง ทำให้สถาปัตยกรรมสุ่มปลายักษ์สูงกว่า20เมตร พังโค่นลงมาเสียหาย

 

นอกจากนี้ยังบ้านเรือนประชาชนพื้นที่หมู่ 6 ต.ต้นตาล ถูกลมพายุพัดพังเสียหายจำนวน 7 หลัง ซึ่งบริเวณสุ่มปลายักษ์ที่โค่นพังลงมาโชคดีไม่ใครได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ซึ่งบ้านเรือนประชาชน โดนพายุพัดพังเสียหายหลังคาบ้านที่มุงด้วยสังกะสีปลิวฝาบ้านพัง กว่า7หลังคาเรือน 

 

นางสาลี จินดารัตน์ เล่าว่าช่วงเกิดเหตุได้ยินเสียงเหมือนต้นไม้หักเพราะตอนนั้นฝนตกและลมแรงมาก จึงหันไปดูก็เห็นว่าสุ่มปลายักษ์ได้โค่นล้มพังไปแล้ว หลังจากพายุฝนสงบจึงได้เดินออกมาดูสุ่มยักษ์ที่พังเสียหายจึงแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ  นางสาลี จินดารัตน์ ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่าหลายปีที่ผ่านมาไม่เคยมีพายุฝนรุนแรงขนาดนี้เลย  ซึ่งตั้งแต่สร้างสุ่มยักษ์มายังไม่เคยเกิดพายุฝนลมแรงขาดนี้ มีวันนี้ที่พายุแรงมากและไม่คิดว่าลมจะแรงถึงขนาดนี้จึงทำให้สุ่มยักษ์หักโค่นพังเสียหายได้ เพราะสุ่มยักษ์สร้างไว้ อย่างแข็งแรงมาก ตนจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยซ่อมสุ่มยักษ์ให้เหมือนเดิม เพราะที่แห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชาวบ้านในพื้นที่จะได้มีช่องทางทำมาหากินด้วย

ด้านนายภูวนารถ จารุภูมิก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลต้นตาล อ.สองพี่น้อง ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบความเสียหายบริเวรสถาปัตยกรรมสุ่มปลายักษ์ และบ้านเรือนของประชน พบว่าสถาปัตยกรรมสุ่มปลายักษ์ที่มีคาวมสูง 20เมตรเส้นฝ่าศูนย์กลาง15เมตร มี7ชั้น สร้างด้วยไม้ไผ่กว่า7000ลำ ใช้เชือกถักเป็นสุ่มปลายักษ์ที่ชาวบ้านช่วยกันสร้างเพื่อเป็นแห่ลงท่องเที่ยวสร้างขึ้นเมื่อปี2560 แต่มาโดนพายุพังเสียงหายทั้งหมด

 ส่วนร้านค้าที่อยู่บริเวณไกล้เคียงไม่ได้รับคามเสียงหายแต่อย่างใด เป็นเพราะว่ามีสุ่มปลาปลายักษ์มาช่วยบังทางลมพายุเอาไว้ ร้านค้าบริเวณไกล้เคียงจึงไม่ได้รับความเสียหาย

 

 

สำหรับสุ่มปลายักษ์ ตำบลต้นตาลอำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี สร้างขึ้นด้วยความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจกันระหว่างชาวบ้านกับผู้นำท้องถิ่น โดยใช้ไม้ไผ่นับหมื่นลำ มาสร้าง มี 7 ชั้นสูง20 เมตร เส้นปผ่าศูนย์กลาง 15 เมตร สร้างเมื่อปี 2560  เพื่อให้เป็นแลนด์มาร์คเป็นจุดชมวิว 360 องศามุมสูงและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของอำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรีด้วย

 

 

 ซึ่งที่ผ่านมาจะมีนักท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลกันมาเที่ยวชมถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกและถ่ายภาพเซลฟี่แชร์ลงในโซเชียล กันอย่างต่อเนื่อง