ผู้สื่อ่าวรายงานว่า นายนพดล  พินิจ ปศุสัตว์จังหวัดมหาสารคาม  พร้อมด้วยปศุสัตว์อำเภอบรบือ และเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองสิม  ลงพื้นที่บ้านหนองสิมใหญ่  หมู่ 1  และบ้านหนองโดนหมู่ 7  ต.หนองสิม  อ.บรบือ  จ.มหาสารคาม  ภายหลังได้รับแจ้งจากเกษตรกรว่าพบโคที่เลี้ยงไว้  มีลักษณะลำตัวเป็นตุ่มนูน  คาดว่าอาจจะเป็นโรคลัมปี สกิน  จากการลงพื้นที่สำรวจพบว่า  โคมีอาการคล้ายจะเป็นโรคลัมปีสกินจริง  เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอจึงได้ทำการฉีดยารักษาตามขั้นตอนของกรมปศุสัตว์  พร้อมกำชับให้เจ้าของห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์โดยเด็ดขาดจนกว่าโรคจะสงบ  โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการฉีดพ่นสารกำจัดแมลงภายในคอกสัตว์  และพ่นหมอกควันกำจัดยุง  ซึ่งเป็นพาหะในการนำเชื้อโรคมาสู่สัตว์เลี้ยงได้

นายจำปี  ภูลาด  เกษตรกรผู้เลี้ยงวัว บ้านหนองโดน  หมู่ 7  ต.หนองสิม  อ.บรบือ  จ.มหาสารคาม  กล่าวว่า  ตนเลี้ยงวัวไว้ 7 ตัว  โดยวัวมีอาการ 3 ตัว  ซึ่งเป็นลูกวัวเพิ่งคลอดได้ประมาณ 2 เดือน  ร่างกายอาจจะยังไม่มีภูมิคุ้มกัน  ซึ่งภายหลังแจ้งปศุสัตว์อำเภอไปก็มีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่อย่างรวดเร็ว  ภาพรวมตอนนี้ทุกตัวยังมีอาการปกติ  ยังกินหญ้าได้  เพียงแต่มีตุ่มนูนขึ้นตามตัวเท่านั้น  ทั้งนี้  บริเวณบ้านของตนติดถนนหลักในหมู่บ้าน  เป็นไปได้ว่าอาจมีแมลงที่เป็นพาหะติดมากับรถที่สัญจรผ่านไปมา  ทำให้วัวของตนเกิดโรคขึ้น

 

ด้านนายนพดล  พินิจ  ปศุสัตว์จังหวัดมหาสารคาม  กล่าวว่า  จังหวัดมหาสารคามพบการระบาดของโรคลัมปี สกินครั้งแรก เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา  ซึ่งขณะนี้ได้ประกาศเขตโรคระบาดชั่วคราวโรคลัมปี สกิน ในพื้นที่บ้านดอนดู่ หมู่ 9 ต.คันธารราษฏร์  อ.กันทรวิชัย  พื้นที่บ้านศาลา  ต.เสือโก้ก อ.วาปีปทุม  และบ้านโนนงิ้ว  หมู่ 2 ต.ขามป้อม  อ.วาปีปทุม  โดยห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์  หรือซากสัตว์  เข้า  ออก  ผ่านภายในเขตโรคระบาดรัศมี 5 กิโลเมตร  รวมระยะเวลา 30 วัน  นับตั้งแต่วันประกาศ  เพื่อควบคุมโรคไม่ให้เกิดแพร่ระบาด  หากผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 22 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี  ปรับไม่เกิน 40,000 บาท  หรือทั้งจำทั้งปรับ  ตามมาตรา 65 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558