"รอง ผบช.ภาค 7" นำทีมตะลุยป่า ตรวจชายแดนช่องหุบจินดา ป้องกันแรงงานชาวเมียนมาทะลักเข้าไทย
29 พ.ค. 2564, 06:44
วันที่ 28 พ.ค. 2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่บริเวณศูนย์ประสานงานเพื่อความมั่นคง มณฑลทหารบกที่ 17 (มทบ.17) หมู่ 12 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7(รอง ผบช.ภ.7) เป็นประธานปล่อยแถวระดมกำลังลงพื้นที่สำรวจตรวจสอบช่องทางเข้าออกทางธรรมชาติของแรงงานผิดกฎหมายชาวเมียนมา ในช่วงการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามนโยบายของรัฐบาล บริเวณช่องทางสันแดนหุบจินดา หมู่ 12 ต.บ้านเก่า ที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน
โดยมี พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ฝ่ายความมั่นคง พ.ต.อ.ภาคิน แสนพุฒิ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.เสนีย์ เวชพัฒ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.ยอดยิ่ง ชมมี รอง ผกก.กก.ตชด.13 ร.อ.สุระชัย ทองเหลือง ผบ.ร้อยทหารพราน 1115 กรมทหารพรานที่ 11 กองทัพภาคที่ 1 นายนพพล สุกิจปาณีนิจ ปลัดอำเภอเมืองกาญจนบุรี นายอภิรัฐ สงบจิต ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.บ้านเก่า รวมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.กก.สส.ภ.จว.) กาญจนบุรี พร้อมชุดสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ อส.อ.เมืองกาญจนบุรี กว่า 70 นาย ร่วมเดินทาง
สำหรับเส้นทางการเดินทางนั้นค่อนข้างลำบากเนื่องจากเป็นเส้นทางที่ค่อนข้างคับแคบที่ต้องขึ้นลงภูเขา สลับกับมีต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นเต็มพื้นที่ ซึ่งคณะของ พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน ใช้เวลาสำตรวจเส้นทางประมาณ 1 ชั่วโมง จึงเดินทางกลับเนื่องจากท้องฟ้าเริ่มมืด โดยได้เน้นฝากไปถึงประชาชนในพื้นที่ช่วยสอดส่องดูแลแรงงานเมียนมา และแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานโดยเฉพาะผู้นำท้องถิ่นที่ใกล้ชิดที่สุด
ทั้งนี้ พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รอง ผบช.ภ.7 เปิดเผยภายหลังว่า ตามนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภาค 7 ให้จังหวัดที่มีพื้นที่ติดชายแดนเข้มงวดกวดขัน จับกุมเรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยให้มีการสืบสวนขยายผลจับกุมดำเนินคดีกับเครือข่ายผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดอย่างเด็ดขาดทุกราย และให้ถือว่าเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ในการป้องกัน และตัดวงจรการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ซึ่งอาจจะติดมากับกลุ่มแรงงานดังกล่าว
ในส่วนพื้นที่ชายแดนของจังหวัดกาญจนบุรี เรามีกองกำลังที่คอยดูแลตามแนวชายแดนคือกองกำลังสุรสีห์ และกองกับกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 13 ค่ายพระพุทธยอดฟ้า แต่การที่เรามาสำรวจช่องทางหุบจินดาในวันนี้ มีกองร้อยทหารพราน 1115 กรมทหารพรานที่ 11 และหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ เป็นหน่วยงานที่ดูแลอยู่
ซึ่งช่องทางหุบเขาจินดาที่เราเดินทางเข้ามาสำรวจตรวจสอบเส้นทางการเดินทางข้ามแดนเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมายของแรงงานชาวเมียนมาบริเวณนี้ ทางผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.บ้านเก่า รวมทั้งปลัดอำเภอเมืองกาญจนบุรี ที่วันนี้เดินทางมาด้วย ทราบดีอยู่แล้วว่าจุดบริเวณนี้นั้น เป็นจุดๆหนึ่งที่แรงงานชาวเมียนมาสามารถเดินเท้าผ่านเข้ามาตามช่องทางนี้ได้ การเดินทางมาในวันนี้ก็ต้องการดูจุดช่องทางเข้าออกของแรงงานรวมทั้งต้องการมาให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกสังกัด
และที่ผ่านมาในส่วนของ พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ก็ได้มีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ และร้อยทหารพรานที่ 1115 รวมทั้งร่วมมือร่วมใจปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ภาคประชาชนโดยเฉพาะกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนของจังหวัดกาญจนบุรี ทุกชุมชนทุกหมู่บ้าน
ทำให้ที่ผ่านมาสามารถป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนทำให้สามารถติดตามจับกุมเครือข่ายกลุ่มผู้ลักลอบนำพาแรงงานชาวเมียนมาในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ได้จำนวนหลายคน ซึ่งหน่วยงานทุกหน่วยงานของจังหวัดกาญจนบุรี มีการประสานงานกันมาโดยตลอดทำให้การทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยการบริหารสั่งการของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ทุกครั้งได้มีการประชุมหารือเพื่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติของแต่ละฝ่ายนำไปปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
จุดสำคัญคือที่สุดคือการป้องกันตามแนวชายแดนเพื่อไม่ให้แรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาเข้ามาค้าแรงงานในช่วงการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ซึ่งคาดว่ารัฐบาลจะมีมาตรการออกมาในภายหลัง
ขณะเดียวกันระหว่างนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร รวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องหาความร่วมมือในด้านการข่าว ซึ่งในวันนี้ผู้ใหญ่หมู่ 12 ต.บ้านเก่า ก็ได้มาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ทำให้ที่ผ่านมาสามารถป้องกันแรงงานชาวเมียนมา ลักลอบเข้ามาได้เป็นอย่างดี ถึงแม้จะเล็ดลอดเข้ามาก็สามารถจับกุมได้ทุกราย
สำหรับพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านระยะทางมากถึง 371 กิโลเมตร มีช่องทางเข้าออกทางธรรมชาติมากถึง 43 ช่องทาง ดังนั้นรัฐบาลจึงเน้นนโยบายให้เพิ่มความเข้มในการปฏิบัติหน้าที่ของทุกหน่วยงาน เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล”