วันนี้ 29 พ.ค. 2564 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ทหารชุดหมวดลาดตระเวน ที่ 3 จุดตรวจบ้านน้ำเกริ๊ก ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ทำการจับกุมผู้กระทำผิดลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต จำนวน 6 คน บริเวณ สวนยาง บ.ทิโคร่ง หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จว.กจ พิกัด MS491674 โดยมีรายละเอียดดังนี้

 

1.นาย เยนเยะ ไม่มีนามสกุล อายุ 42 ปี สัญชาติ เมียนมา ไม่มีบัตรประจำตัว ที่อยู่ เมาะละแม่ง

2.นาย ยุ้ย ไม่มีนามสกุล อายุ 41 ปี สัญชาติ เมียนมา ไม่มีบัตรประจำตัว ที่อยู่ เมาะละแม่ง

3.นาย โทน ไม่มีนามสกุล อายุ 43 ปี สัญชาติ เมียนมา ไม่มีบัตรประจำตัว ที่อยู่ เมาะละแหม่ง

4.นาง อิมมอ ไม่มีนามสกุล อายุ 39 ปี สัญชาติ เมียนมา ไม่มีบัตรประจำตัว ที่อยู่ เมาะละแม่ง

5.นาง อิงมูซะ ไม่มีนามสกุล อายุ 17 ปี สัญชาติ เมียนมา ไม่มีบัตรประจำตัว ที่อยู่ เมาะละแม่ง

6.นาง อิงมูเทะ ไม่มีนามสกุล อายุ 17 ปี สัญชาติ เมียนมา ไม่มีบัตรประจำตัว ที่อยู่ เมาะละแม่ง

 

สำหรับหมวดลาดตระเวนที่ 3 ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน และ ชรบ.หมู่ 4 อ.สังขละบุรี ว่ามีแรงงานต่างด้าว มาพักคอยเพื่อรอการเคลื่อนย้ายโดยยานพาหนะบริเวณ บ้านทิโคร่ง อ.สังขละบุรี จำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงทำการเข้าตรวจสอบบริเวณที่ได้รับแจ้ง จนพบว่ามีแรงงานต่างด้าวหลบอยู่ในสวนยาง จึงตรวจสอบพบว่ามีจำนวนทั้งหมด 6 คน เป็นคนสัญชาติเมียนมา เชื้อชาติมอญ 2 คน และเชื้อสายเมียนมา 4 คน 

 

จากการซักถามผู้ต้องหาได้ให้การว่ามาจาก จังหวัดกอกาเร็ก อ.พญาตองซู ประเทศเมียนมา โดยติดต่อนายหน้าฝั่งประเทศเมียนมา ผ่านทางโทรศัพท์ หมายเลข(0912742899) ไม่ทราบชื่อ เป็นชาวเมียนมา ตั้งแต่วันที่ 28 ช่วงเช้า มีผู้นำพาเป็นวัยรุ่นผู้ชายชาวเมียนมา เชื้อชาติมอญ ไม่ทราบชื่อ จำนวน 1 คน นำเดินเข้ามาฝั่งไทย ใช้การเดินเท้าเข้ามาตามเส้นทางธรรมชาติจาก บ้านป้อมตะป้อย ถึง บ้านไร่อ้อย จากนั้นขึ้นรถมอเตอร์ไซค์นำนวน 4 คัน จาก บ้านไร่อ้อย ไปตามเส้นทาง บ้านโจคีพื้อ และ บ.เสน่ห์พ่อง และไปลงเรือที่ บ้านหลังเขา มีเรือมารับ 1 ลำ และเรือมาส่งที่ บ้านทิโคร่ง เวลาประมาณ 22.00 น. วันเดียวกัน

 

และพักในสวนยางเพื่อจะรอรถมารับต่อ โดยผู้นำพาที่พามาจากประเทศเมียนมาได้เดินทางมาด้วยจนถึงสวนยางบริเวณที่ถูกจับกุม แล้วแจ้งว่าจะมีรถมารับและได้เดินหายไป โดยทั้ง 6 คน แจ้งว่าจะไปทำงานที่ บ้านจงอั่ว ต.ปรังเผล เพราะเคยเข้ามาทำงานกรีดยางก่อนหน้านี้มาแล้ว และการนำพาเข้ามาในครั้งนี้เสียค่าจ้างคนละ 5,000 บาท และโดยจ่ายให้กับนายหน้าไปแล้ว เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิขั้นต้นไม่พบผู้ใดอุณหภูมิเกิน 37.5 องศา และนำตัวส่งฝ่ายปกครองเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

 

สำหรับปัญหาแรงงานเมียนมา นี้ทางพล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7(รอง ผบช.ภ.7) ได้ทำการปล่อยแถวระดมกำลังลงพื้นที่สำรวจตรวจสอบช่องทางเข้าออกทางธรรมชาติของแรงงานผิดกฎหมายชาวเมียนมา ในช่วงการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามนโยบายของรัฐบาล และได้ย้ำฝากไปถึงประชาชนในพื้นที่อยู่ใกล้กับช่องทางธรรมชาติ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้ช่วยแจ้งเบาะแสหากพบมีแรงงานเมียนมา เข้ามาเนื่องจากให้เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามคงจะดูแลไม่ทั่วถึงเนื่องจากเส้นทางหลายร้อยกิโลเมตร อีกทั้งยังมีช่องทางธรรมชาติเป็นจำนวนมากด้วย ดังนั้นต้องฝากกับประชาชนและผู้นำท้องถิ่นช่วยแจ้งเบาะแสกับเจ้าหน้าที่อีกทางหนึ่ง

 

ทั้งนี้ พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รอง ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า  ตามนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภาค 7 ให้จังหวัดที่มีพื้นที่ติดชายแดนเข้มงวดกวดขัน จับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยให้มีการสืบสวนขยายผลจับกุมดำเนินคดีกับเครือข่ายผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดอย่างเด็ดขาดทุกราย และให้ถือว่าเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ในการป้องกัน และตัดวงจรการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด -19 ซึ่งอาจจะติดมากับกลุ่มแรงงานดังกล่าว

 

ในส่วนพื้นที่ชายแดนของจังหวัดกาญจนบุรี เรามีกองกำลังที่คอยดูแลตามแนวชายแดนคือกองกำลังสุรสีห์ และกองกับกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 13 ค่ายพระพุทธยอดฟ้า แต่การที่เรามาสำรวจหุบจินดาในวันนี้ มีกองร้อยทหารพราน กรมทหารพรานที่ 14 และหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ เป็นหน่วยงานที่ดูแลอยู่ ส่วนตำรวจภูธรจะเป็นหน่วยตั้งรับอยู่ชั้นใน ตั้งด่านตรวจสอบตามเส้นทางต่างๆ./