เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 64  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านตูม ต.ตูม อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ  นายวัฒนา  พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ  กล่าวถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคลัมปี สกิน (lumpy skin disease) ในโค-กระบือในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษว่า  สถานการณ์โรคลัมปี สกิน ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ข้อมูล ณ วันที่ 21 พ.ค. 64  มีรายงานพบสัตว์ป่วยสะสม ในพื้นที่  20 อำเภอ 110 ตำบล เกษตรกร 772 ราย สัตว์ป่วยสะสมทั้งสิ้น จำนวน 1,536 ตัว พบมากสุดในพื้นที่ อ.ราษีไศล จำนวน 358 ตัว รองลงมาคือ อ.ศิลาลาด จำนวน 305 ตัว และอ.ยางชุมน้อย จำนวน 114 ตัว ตามลำดับ ส่วนอำเภอที่ยังไม่พบการระบาดของโรคดังกล่าวมี 2 อำเภอ คือ อ.พยุห์ และอ.โนนคูณ  ขณะนี้ตนได้มีการออกประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติในเรื่องของโรคติดต่อในโค -กระบือในพื้นที่ที่มีสถานการณ์  ตนได้สั่งการให้ อปท.และสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดลงไปให้การช่วยเหลือเดินสำรวจพี่น้องประชาชนรวมทั้งการห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์ในช่วงนี้ พร้อมทั้งได้สั่งปิดตลาดนัดโค-กระบือทุกแห่ง ซึ่งก็สอดคล้องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วย  ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันและเพื่อเปิดช่องทางให้พี่น้องประชาชนได้แจ้งขอความช่วยเหลือเข้ามาที่สำนักงานปศุสัตว์และที่ศูนย์ดำรงธรรมของจังหวัดและอำเภอทุกอำเภอ

นายวัฒนา  พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ  กล่าวต่อไปว่า  จากการสำรวจแล้วมีโคกระบือป่วยเป็นโรคเยอะมากแต่ขนาดนี้มีแนวโน้มลดลงแล้ว  สถานการณ์ต่อวันเริ่มลดลงแล้ว ตนขอฝากถึงพี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงโคกระบือว่าโรคนี้มาจากแมลง ขอให้เกษตรกรในพื้นที่เฝ้าระวังและสังเกตสัตว์เลี้ยงของตนเองอย่างใกล้ชิด  และจะต้องทำความสะอาดและฉีดพ่นยาขับไล่แมลงที่อยู่ในพื้นที่และรอบตัวสัตว์นอกจากนี้ก็ยังมีข้อแนะนำในเรื่องการใช้วิธีเปิดไฟไล่แมลงต่าง ๆ  หมั่นทำความสะอาดสัตว์และคอยสังเกตุอาการถ้าโคมีผิวหนังเป็นจ้ำอะไรขึ้นมา ขอให้รีบปรึกษาปศุสัตว์อำเภอหรืออาสาสมัครปศุสัตว์ในการที่จะเข้ามาช่วยเหลือดูแลอย่างเร่งด่วนต่อไปด้วย  สำหรับโรคลัมปี สกิน เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่สำคัญในโคกระบือ แต่ไม่ใช่โรคที่ติดสู่คนได้ เกิดจากเชื้อไวรัส สัตว์ที่ติดเชื้อจะมีไข้สูง ต่อมน้ำเหลืองโต และมีตุ่มขนาดใหญ่ประมาณ 2-5 ซม. ขึ้นที่ผิวหนังทั่วร่างกาย พบมากที่คอ หัว เต้านม ถุงอัณฑะและบริเวณหว่างขา ตุ่มที่ขึ้นอาจแตก ตกสะเก็ดและเกิดเป็นเนื้อตาย หรือมีหนอนแมลงมาไชได้ อาจพบตุ่มน้ำใสขึ้นที่เยื่อเมือก ทางเดินหายใจและทางเดินอาหาร ทำให้มีอาการน้ำลายไหล ตาอักเสบ มีตุ่มขึ้นที่เยื่อเมือกตา น้ำตาไหลและมีขี้ตา  ซึ่งทางราชการได้ให้คำแนะนำ วิธีป้องกัน และควบคุมโรค พร้อมรักษาสัตว์ป่วยตามอาการ โดยให้ยาลดไข้ ยาปฏิชีวนะ และยาบำรุง แยกโคป่วยออกจากฝูงเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ และได้ประสานขอความร่วมมือจาก อปท.ให้ไปพ่นยาฆ่าเชื้อโรคและแมลงพาหะนำโรค บริเวณตัวสัตว์ และคอกสัตว์