เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



จับแล้ว! คนเร่ร่อน ทำอนาจารสตรีมเมอร์สาวชาวต่างชาติ ข้างสวนลุมพินี


2 มิ.ย. 2564, 14:37



จับแล้ว! คนเร่ร่อน ทำอนาจารสตรีมเมอร์สาวชาวต่างชาติ ข้างสวนลุมพินี




จากกรณีนักท่องเที่ยวสาวชาวแคนาดา ถูกชายเร่ร่อนกระทำอนาจาร เมื่อวันที่ 27 พ.ค.64 เวลาประมาณ 13.18 น. บริเวณทางเดินเท้าถนนวิทยุ ข้างสวนลุมพินี ตรงข้ามประตู 1 โครงการ ONE BANGKOK ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ ผบ.ตร. ได้สั่งการมายัง ผบช.น. ให้รีบพิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำความผิดให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากผู้เสียหายเป็นชาวต่างชาติ มีการเผยแพร่เหตุการณ์ทางสื่อโซเชียลต่าง ๆ ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ



ฝ่ายสืบสวนได้ดำเนินการสืบสวน เก็บรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง จนทราบตำหนิรูปพรรณ รวมทั้งการแต่งกายของคนร้ายในการก่อเหตุ ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทางในการเข้าก่อเหตุและหลบหนี ประชาสัมพันธ์และนำภาพถ่ายตำหนิรูปพรรณของคนร้ายให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่และ สน.ข้างเคียง ตรวจสอบ เพื่อจะได้ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.64 เวลาประมาณ 23.30 น. ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.จักรกฤศน์ โฉสูงเนิน ผกก.สน.ลุมพินี, พ.ต.ท.ปรัชญา บุญยืน รอง ผกก.สส.สน.ลุมพินี , พ.ต.ต.ภราดร สุวรรณรัตน์ สว.สส.สน.ลุมพินี, พ.ต.ต.สิทธิศักดิ์ สุดหอม สว.สส.สน.ลุมพินี พร้อมกำลังฝ่ายสืบสวน.สน.ลุมพินี และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ร่วมกันพิสูจน์ทราบตัวผู้ต้องหาในคดีนี้ คือ นายเจษฎา โพธิ์พงษ์ อายุ 31 ปี สัญชาติไทย พฤติการณ์กล่าวคือ ตามวันเวลาที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี ได้ออกตรวจสอบตามเส้นทางที่คนร้ายใช้ในการหลบหนี ได้พบชายซึ่งมีตำหนิรูปพรรณตรงตามคนร้ายในคดีนี้ มาปรากฏตัวบริเวณทางเดินเท้า ถนนพระราม 4 ข้างสวนลุมพินี จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ


จากการสอบถามทราบชื่อผู้ต้องหาคือ นายเจษฎา โพธิ์พงษ์ อายุ 31 ปี สัญชาติไทย ให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุกระทำอนาจารผู้เสียหายในวันเกิดเหตุจริง ในวันนี้ (2 มิ.ย.64) พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ได้ประสานผู้เสียหายมาทำการร้องทุกข์และชี้ภาพยืนยันตัวบุคคล ซึ่งผู้เสียหายให้การยืนยันว่า นายเจษฎา เป็นบุคคลที่ได้กระทำอนาจารต่อผู้เสียหายจริง พนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้นายเจษฎา ทราบว่า “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต่อหน้าธารกำนัล” หลังจากนี้จะได้ทำการสอบสวน และนำตัวผู้ต้องหาไปยื่นคำร้องฝากขังต่อศาล ในส่วนของผู้เสียหายซึ่งเป็นชาวต่างชาติ พนักงานสอบสวนจะได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้ไต่สวนพยานล่วงหน้าต่อไป

จากการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของผู้ต้องหาพบว่า ผู้ต้องหาเคยถูกจำคุกในข้อหา - “กระทำอนาจารผู้อื่นฯ” เมื่อปี พ.ศ.2562 ในพื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง - “ทำร้ายร่างกายผู้อื่น” เมื่อปี พ.ศ.2563 ในพื้นที่ สน.สุทธิสาร - และเพิ่งถูกปล่อยตัวจากเรือนจำเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2563 ที่ผ่านมา.

ที่มา : one31






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.