นายกฯ เตรียมตรวจศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ คิกออฟปูพรมฉีดวัคซีนทั่วประเทศ 7 มิ.ย.
6 มิ.ย. 2564, 14:47
วันนี้ ( 6 มิ.ย.64 ) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เตรียมลงพื้นตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ และศูนย์ฉีดวัคซีนผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ในวันจันทร์ที่ 7 มิ.ย 64 นี้ โดยศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อมีเป้าหมายการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนได้อย่างน้อยวันละประมาณ 10,000 คน ซึ่งสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามเป้าหมายได้ที่กำหนดไว้ จากที่ได้เริ่มดำเนินการในเบื้องต้นตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นมา ส่วนการเปิดบริการจริงเต็มรูปแบบในวันที่ 7 มิถุนายน 2564 นี้ จะเปิดให้บริการประชาชนที่ลงทะเบียนนัดหมายล่วงหน้าก่อนแล้วเท่านั้น เพี่อความชัดเจนว่าประชาชนที่เดินทางมาที่สถานีกลางบางซื่อจะได้รับการฉีดวัคซีนตามกำหนดที่นัดหมายอย่างแน่นอน และเป็นการลดความแออัดของสถานที่ฉีดวัคซีนอีกด้วย
สำหรับการฉีดวัคซีนให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นั้น กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ได้ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย โดยกรุงเทพมหานคร กระทรวงสาธารณสุข โดย สปสช. กระทรวงการคลัง โดยธนาคารกรุงไทย และสถานพยาบาลในเครือข่ายประกันสังคม จัดการบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในสถานประกอบการ รวมทั้งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่แก่แรงงานในภาคธุรกิจ เพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว สร้างความเชื่อมั่นให้ภาคเอกชนได้มีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปได้ โดยจะเริ่มการฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2564 นี้ ให้กับผู้ประกันตนที่ได้แจ้งความประสงค์ต้องการรับวัคซีนไว้กับฝ่ายบุคคลของสถานประกอบการต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และได้บันทึกลงระบบ e – service ของสำนักงานประกันสังคมไว้แล้ว
ทั้งนี้สำนักงานประกันสังคมได้กำหนดจุดฉีดไว้ทั้งสิ้น 45 จุดทั่วกรุงเทพมหานคร และมีศักยภาพในการฉีดได้วันละ 50,000 คน โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า “สำหรับการฉีดวัคซีนให้ประชาชนกลุ่มอื่นๆ ที่ได้รับการนัดหมายไว้ก่อนแล้วนั้น สามารถดำเนินการได้ทั่วประเทศตามแผนเดิมที่กำหนดไว้ เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขได้กระจายวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ทุกจังหวัดทั้งในส่วนของแอสตร้าเซนเนก้าและซิโนแวคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ การจัดส่งวัคซีนจากส่วนกลางไปยังสถานที่ฉีดวัคซีนต่างๆ ทั่วประเทศนั้น มีการปรับเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยจากเดิมที่ส่งให้จังหวัดเป็นรายเดือน ได้ทำการปรับเปลี่ยนเป็นแบบรายสัปดาห์ตามสถานการณ์แทน”