ธนาคารกรุงไทย ล่าสุด ได้มีการออกชี้แจงข้อสงสัย เกี่ยวกับการเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนผู้สนใจลงทะเบียนวันแรกในวันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป เป็นการเปิดให้ลงทะเบียน จำนวน 31 ล้านสิทธิ โดยผู้ที่เคยร่วมโครงการภาครัฐ (ชิมช้อปใช้, เราเที่ยวด้วยกัน, คนละครึ่ง, เราชนะ, ม.33 เรารักกัน) จะไม่ได้รับสิทธิอัตโนมัติอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่ให้ลงทะเบียนผ่าน เว็บไซต์ www. คนละครึ่ง .com หรือ แอปฯ เป๋าตัง เพียงแต่การกรอกข้อมูลต่าง ๆ จะน้อยกว่าคนที่ลงทะเบียนใหม่ เนื่องจากระบบมีข้อมูลเดิมอยู่แล้ว 

การลงทะเบียนของผู้ที่เคยได้รับสิทธิ ในวันที่ 14 มิถุนายน 2564 ให้คลิกที่แบนเนอร์ โครงการสิทธิคนละครึ่ง กดรับข้อตกลง และเงื่อนไขของโครงการ กรอกข้อมูลเพิ่มเติม (เบอร์โทรศัพท์ OTP/อาชีพ/ประเภทรายได้) กรอก OTP เพื่อยืนยันเข้าร่วมโครงการ หลังจากนั้นรอแจ้งผลการรับสิทธิภายใน 3 วัน 

ทั้งนี้ การลงทะเบียน ระบบไม่มีการล็อคข้อมูลให้กับผู้ลงทะเบียนทุกท่าน สิทธิจำนวน 31 ล้านสิทธิ จะเป็นแบบลำดับก่อนหลัง ผู้ที่เคยได้รับสิทธิแล้ว กับผู้ลงทะเบียน จะใช้เกณฑ์เดียวกัน  

ส่วนการเข้าร่วมคนละครึ่งเฟส 3 สำหรับผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมโครงการภาครัฐ ให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www. คนละครึ่ง .com เท่านั้น โดยต้องเป็นประชาชนสัญชาติไทย ที่มีบัตรประจำตัวประชาชน อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ หรือไม่ใช้สิทธิโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ 

เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว จะได้รับ SMS แจ้งสิทธิภายใน 3 วัน จากนั้น ขอให้ท่านยืนยันตัวตนผ่านช่องทาง ได้แก่ (1) ผู้ที่เคยยืนยันตัวตนด้วยบัตรประจำตัวประชาชนกับธนาคารกรุงไทย จำกัด มหาชน (ธนาคารกรุงไทยฯ) แล้ว สามารถสแกนใบหน้าเพื่อใช้งานแอปพลิเคชันได้เลย หรือ (2) ผู้ที่มีแอปพลิเคชัน KrungthaiNext สามารถยืนยันตัวตนผ่าน KrungthaiNext ได้ หรือ (3) ผู้ที่ไม่เคยยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนกับธนาคารกรุงไทยฯ ให้นำบัตรประจำตัวประชาชนไปยืนยันตัวตนที่สาขาหรือตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยฯ และสแกนใบหน้าอีกครั้งหนึ่งก็จะเสร็จสมบูรณ์ เมื่อยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้วจะสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการได้

 
ทั้งนี้ สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป เวลา 06.00 น. - 22.00 น. จนกว่าจะครบจำนวนไม่เกิน 31 ล้านคน 

ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับสิทธิภาครัฐร่วมจ่ายร้อยละ 50 สำหรับค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป และค่าบริการ (นวด สปา ทำผมทำเล็บ ค่าเดินทางโดยบริการขนส่งสาธารณะหรือขนส่งมวลชนสาธารณะ) ยกเว้นสลากกินแบ่ง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ ทั้งนี้ ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน หรือไม่เกิน 1,500 บาทต่อคน ในแต่ละรอบ รอบแรกตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 และรอบที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 หรือไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ