ยธ.เผยเตรียมลดสถานะ 2 เรือนจำสีแดงเป็นสีขาว
16 มิ.ย. 2564, 17:37
วันที่ 16 มิถุนายน 2564 เวลา 17.00 น. นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายในสถานที่ควบคุมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม เผย ภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน พบแนวโน้มยังดีขึ้นต่อเนื่อง หายป่วยแล้วกว่า 80%
นายวัลลภ เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในเรือนจำและทัณฑสถานในวันนี้ พบว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน มีผู้ติดเชื้อรายใหม่น้อยกว่าผู้ติดเชื้อที่รักษาหายอย่างต่อเนื่อง โดยพบผู้ป่วยรักษาหายสะสมกว่า 80% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด ส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ระหว่างการรักษา 6,499 ราย และคาดว่าจะมีจำนวนผู้ที่หายป่วยเพิ่มขึ้นอีกต่อเนื่อง จากจำนวนผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่มีกว่าร้อยละ 90 ของผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ระหว่างการรักษา ที่ส่วนใหญ่จะสามารถหายป่วยได้ตามกำหนดระยะเวลาของโรคคือประมาณ 14 วัน นับจากวันตรวจพบเชื้อ ภายใต้การดูแลของกรมราชทัณฑ์ ตามลักษณะอาการร่วมกับการให้ยาสารสกัดฟ้าทะลายโจรและยาผงฟ้าทะลายโจรร่วมด้วย และในส่วนของผู้ป่วยกลุ่มสีเหลือง และสีแดง ซึ่งได้รับการรักษาภายในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลเรือนจำกลางบางขวาง ยังคงพบว่ามีแนวโน้มของผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าวลดลง และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 โดยมีผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 28 ราย หรือร้อยละ 0.08 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด
นายวัลลภ กล่าวต่อว่า ด้านมาตรการเพื่อลดสถานะเรือนจำ/ทัณฑสถานจากการเป็นเรือนจำสีแดงเป็นเรือนจำปกติ ปัจจุบัน มีเรือนจำ/ทัณฑสถานที่อยู่ระหว่างรอระยะเวลาเพื่อลดสถานะจำนวน 2 แห่ง คือ เรือนจำจังหวัดนนทบุรี และทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง ซึ่งคาดว่าจะประกาศลดสถานะได้ภายในเดือนมิถุนายน 2564 นี้ ส่วนเรือนจำที่เริ่มดำเนินการได้บางส่วน คือ สามารถแบ่งแยกแดนที่เป็นสีขาวปลอดเชื้อบางส่วนได้แล้ว คือ เรือนจำกลางเชียงใหม่ ทัณฑสถานหญิงกลาง และเรือนจำกลางบางขวาง ที่เป็นเรือนจำขนาดใหญ่ที่สามารถบริหารจัดการพื้นที่ รวมถึงการคัดกรองที่รวดเร็ว จนสามารถรักษาและลดจำนวนผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งอยู่ระหว่างการประเมินเพื่อเข้าแผนการปรับลดสถานะจากเรือนจำสีแดงเป็นเรือนจำปกติ เช่นเดียวกับ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และเรือนจำพิเศษธนบุรี ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาเช่นเดียวกัน
นายวัลลภ กล่าวปิดท้ายว่า ในส่วนของแผนการดำเนินงานระยะต่อไป จะเป็นการเริ่มวางแผนเพื่อคืนพื้นที่เรือนจำ/ทัณฑสถาน จากเรือนจำสีแดงเป็นเรือนจำสีขาว ที่สามารถรับตัวผู้ต้องขังเข้าใหม่ได้ปกติ ควบคู่กับแผนการป้องกันเชื้อเข้าสู่เรือนจำ/ทัณฑสถาน ที่ต้องมีการดำเนินการอย่างเข้มงวดและเป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดในเรือนจำ/ทัณฑสถานชั้นในได้อีก โดยเฉพาะการเร่งฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องขังเพื่อให้ครอบคลุมทุกราย ซึ่งเป็นนโยบายที่ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้เน้นย้ำเป็นพิเศษ เนื่องจากถือเป็นกลุ่มเปราะบางที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อเป็นพิเศษ ควบคู่กับแผนการฉีดวัคซีนของประชาชนทั่วไป