เปิดเรื่องราวชีวิต ทาร์ซานตัวจริง เติบโตในป่า 41 ปี ไม่รู้จักโลกภายนอก
29 มิ.ย. 2564, 12:49
ในปี 2515 ช่วงที่สงครามเวียดนามยังไม่จบสิ้น โฮ หวั่น ธัน ผู้เป็นทหารอาสาสู้รบกับกองทัพอเมริกัน ได้ยินเสียงเครื่องบินทิ้งระเบิดใส่หมู่บ้านของเขา ธันรีบวิ่งสุดชีวิตเพื่อกลับบ้าน และพบว่าบ้านของเขากลายเป็นซาก แม่และลูกชายคนโตเสียชีวิต
เขาพาภรรยาและลูกชาย 2 คน คือ โฮ หวั่น จี๋ กับ โฮ หวั่น ลัง หลบหนีไปยังที่ปลอดภัย ห่างไกลจากสงครามและผู้คน วันหนึ่ง ธันเกิดคุ้มคลั่งขึ้นมา เขาทุบตีภรรยาจนสลบไป แล้วคว้าลัง วัย 2 ขวบ หนีเข้าป่าลึก ทิ้งเมียและจี๋เอาไว้ ซึ่งไม่มีใครรู้เหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมเขาไม่เอาลูกอีกคนไปด้วย
ลัง เติบโตขึ้นมาในป่ากับพ่อ ในป่าลึกภายในพื้นที่ อ.เตยฉ่า จ.ก๋วงหงาย ทางตะวันออกของเวียดนาม เขาไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับโลกภายนอกเลยแม้แต่น้อย ทั้งสองอาศัยอยู่ในบ้านต้นไม้ ยังชีพด้วยน้ำผึ้ง ผลไม้ป่า และพืชผักที่หาได้
ธันให้ลูกหลีกเลี่ยงการพบเจอผู้คนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อมีคนเริ่มถางป่าเพื่อทำไร่ไถนา หรือสร้างบ้านเรือนเข้ามาใกล้ เขาก็จะย้ายเข้าป่าลึกขึ้นไปเรื่อย ๆ
เวลาผ่านไปนาน จนกระทั่ง โฮ หวั่น จี๋ อายุได้ 12 ปี เขากับลุงก็ตัดสินใจเข้าป่าเพื่อตามหาพ่อและน้องชาย จนกระทั่งพบทั้งสองในป่าลึก ตอนแรกธันจำลูกชายไม่ได้ ต้องใช้เวลากว่าที่เขาจะรับรู้ว่าเด็กคนนี้คือใคร หลังจากนั้นเป็นต้นมา จี๋ก็จะเข้าป่าไปยังบ้านต้นไม้เพื่อน้ำข้าวสาร น้ำมัน และของที่จำเป็นอื่น ๆ ไปให้ทั้งสอง ปีละ 2 ครั้ง
ธันและลังใช้ชีวิตเช่นนั้นเรื่อยมา จนกระทั่งในปี 2556 สุขภาพของธันย่ำแย่ลงด้วยอายุอานามที่แก่ชรา ครอบครัวจึงเข้าป่าไปหาและขอร้องให้มารักษา ลังก็ออกมาด้วย ซึ่งนั่นเป็นการกลับคืนสู่หมู่บ้านเป็นครั้งแรก หลังจากเติบโตในป่ามา 41 ปี
ครอบครัวและชาวบ้านพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อให้ทั้งสองกลับมาอยู่บ้านเหมือนเดิม แต่ธันไม่ยอมท่าเดียวและดึงดันว่าจะไปอยู่ในป่าเหมือนเดิม ในขณะเดียวกัน ลังที่ไม่เคยเจอผู้คนมาก่อน ไม่รู้จักผู้หญิง แทบไม่รู้ภาษา เปรียบเสมือนเด็กคนหนึ่ง กลับกล้าที่จะเรียนรู้ในสิ่งใหม่ และกลับมาอยู่บ้านในปี 2558
สำหรับเรื่องอื่น ๆ ลังไม่สนใจเลย เวลาผู้ชายมาชวนคุยเรื่องผู้หญิง เขาก็ไม่สนใจ สิ่งที่เขาชอบมีแค่การเคี้ยวหมากกับดื่มชาเท่านั้น
ในปี 2560 หลังจากออกจากป่าได้ 2 ปี ธันก็เสียชีวิตจากไปด้วยวัยชรา พอเสียพ่อลังก็รู้สึกโดดเดี่ยว เขาหนีออกจากบ้านเข้าไปในป่าทุกคืน จนในที่สุดเขาก็ตัดสินใจกลับไปใช้ชีวิตดั่งเดิม เหมือน 41 ปีที่ผ่านมา โดยลังไปอาศัยอยู่ในป่า ไม่ไกลจากหมู่บ้านมาก ครอบครัวกับชาวบ้านช่วยกันสร้างกระท่อมเล็ก ๆ ให้เขาพออยู่ได้ ต่อท่อน้ำให้เขาไม่ลำบาก
ปัจจุบัน ลังในวัย 50 ปี กว่า ๆ มีความสุขกับการปลูกกล้วยและดื่มน้ำผึ้ง เขาจะเข้าหมู่บ้านเดือนละครั้งหรือสองครั้ง เพื่อเอานก หนู หรือเอากล้วยไปขาย ส่วนพี่ชายกับก็ไปหามาสู่และคอยดูแลตลอด รวมทั้งเขาของใช้ที่จำเป็นและเอาเสื้อผ้าไปให้