จากกรณีมีรายงานว่า วันนี้ (1 ก.ค.64)  ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.) เปิดเผยว่า การดำเนินการตาม มาตรการจัดสถานที่กักกันโรคว่า เนื่องจาก 1 ปีที่ผ่านมา มีคนไทยและชาวต่างชาติ เข้ารับการกักตัว พบว่ามีการใช้บริการด้านนี้เพิ่มมากขึ้น และมีประชาชนหลายรายเดินทางไปต่างประเทศและก็กลับเข้ามา และใช้สิทธิตรงนี้ ทำให้รัฐมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น เพราะฉะนั้นจากนี้จะกลับไปสู่นิวนอร์มอล โดยจะมีการลดสถานกักกันโรคของรัฐในรูปแบบ State quarantine : SQ

โดยจะมีการปรับ และเพิ่มในส่วนของสถานกักกันโรคทางเลือก (Alternative quarantine: AQ) หมายถึง สถานกักกันโรคของรัฐ (SQ) ยังมีอยู่ แต่จะให้สำหรับกลุ่มเปราะบาง ข้าราชการที่เดินทางกลับเข้ามา แต่คนปกติทั่วไป ทั้งคนไทยและต่างชาติต้องใช้สถานกักกันทางเลือก (AQ) แต่สำหรับคนไทย รัฐจะช่วยในเรื่องการตรวจหาเชื้อ แต่ในส่วนของค่าที่พัก ค่าโรงแรม ผู้เดินทางต้องจ่ายเอง โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ค.2564 เป็นต้นไป

 

ส่วนสถานกักกันโรคของหน่วยงาน (Organizational Quarantine: OQ) จะใช้รองรับ 2 กรณีคือ 

1.แรงงานไทยที่กลับจากการทำงานในต่างประเทศ กลุ่มคนพวกนี้หารายได้เข้ามา เมื่อกลับเข้ามาทางกระทรวงแรงงานจะประสานกับภาคเอกชน กำหนดพื้นที่ ระยะเวลา และเรื่องต่างๆ ให้

2.กลุ่มคนไทยที่อยู่ต่างประเทศ แล้วต้องการกลับมา ถือเป็นกลุ่มเปราะบาง แต่ไม่มีกำลังในการจ่าย ภาครัฐจะจัดหา OQ ในส่วนนี้ให้ เฉพาะในส่วนของทางบก อาทิ ขอบประเทศทางจังหวัดชายแดน ยังมีสถานกักกันของรัฐ (SQ) อยู่ อาจจะเป็นโรงแรมที่ไม่มีหลายดาว ซึ่งภาครัฐยังเป็นผู้รับผิดชอบออกค่าใช้จ่ายให้ ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมโรค

ทั้งนี้ ผู้ที่เดินทางมาทางอากาศและทางน้ำ ใช้มาตรการเดียวกันคือ กักตัวในสถานกักกันโรคทางเลือก หรือ AQ ผู้ที่เดินทางมาต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายการกักตัวเอง โดยรายละเอียดจะเอาข้อมูลขึ้นไว้ในเฟซบุ๊กของศูนย์โควิด ขอให้ศึกษาจากเอกสาร และจะเริ่มวันที่ 1 ก.ค. นี้