วันที่ 19 ส.ค. 62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ หมู่เกาะอ่างทอง จ.สุราษฎร์ธานี ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวอ้างว่า มีบุคคลในพื้นที่นำเรือยางของทางราชการมาใช้ในการส่วนตัว ทราบชื่อคือ "นายโชค" ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานชายของหัวหน้าอุทยานฯ ซึ่งได้ทำงานตำแหน่งลูกจ้าง อยู่ในหมู่เกาะอ่างทอง ไม่ได้มีการสอบ หรือมีการบรรจุตำแหน่ง แต่อาศัยอำนาจโดยไม่ชอบใช้เรือยางมาใช้ส่วนตัว

 

ซึ่งนายธนภัทรนั้นได้ มีความสัมพันธ์กับครูเจ ซึ่งสอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ และพักอาศัยอยู่ที่เกาะพลวย แต่นายโชค ทำงานและพักอาศัยอยู่ที่อ่าวคาหมู่เกาะอ่างทอง จึงทำให้การเดินทางต้องใช้เรือในการเดินทางจึงใช้อำนาจมิชอบในการนำเรือซึ่งเป็นทรัพย์สินของทางราชการมาใช้ในการส่วนตน และในการนำเรือออกมาใช้น้ำมันที่ใช้ก็เป็นน้ำมันที่เบิกออกมาจากกองคลัง ซึ่งเป็นน้ำมันที่ใช้งบประมาณของทางราชการจัดซื้อ เพื่อไว้ให้สำหรับเจ้าหน้าที่ได้ใช้ในการปฏิบัติหน้าในการออกสำรวจพื้นที่ต่าง ๆ ของเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทองทางทะเล

 

โดยการกระทำดังกล่าวของนายโชค เป็นการกระทำที่ผิด ซึ่งมีชาวบ้านเกาะพลวยที่อาศัยอยู่บริเวณท่าเรือที่นายโชครนำเรือเข้าจอด และชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนเกาะพลวยที่ทำการประมงได้พบเห็นเหตุการดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง และชาวบ้านได้เกิดข้อสงสัยกับการกระทำดังกล่าว เนื่องจากเคยมีกรณีชาวบ้านเกาะพลวยเจ็บป่วยฉุกเฉินและด้วยพื้นที่บนเกาะพลวยไม่มีโรงพยาบาลเวลารักษาต้องส่งตัวไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลดอนสัก และด้วยการเดินของชาวบ้านต้องใช้เรือหางยาวหรือเรือเมล์ ซึ่งทำให้ต้องใช้เวลาในการเดินทาง เรือหางยาว 1 ชั่วโมง เรือเมล์ 2 ชั่งโมง (แต่เรือเมล์ต้องเหมาราคา 15,000 บาท) ซึ่งการเดินทางต้องใช้เวลามากทำให้ผู้ป่วยมีภาวะเสี่ยงมาก จึงได้มีการส่งเรื่องขอความช่วยเหลือไปยังหมู่เกาะอ่างทองขออนุเคราะห์เรือยางมาใช้ในการส่งผู้ป่วยฉุกเฉินส่งโรงพยาบาลแต่ได้ถูกการปฏิเสธจากหน่วยงานดังกล่าว โดยอ้างว่าการนำเรือมาใช้ต้องใช้ค่าใช้จ่าย (ค่าน้ำมันสูง) จึงไม่สามารถรับคำขอความอนุเคราะห์จากชาวบ้านได้