เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



รวบตัว ! "13 แรงงานเมียนมา" ลักลอบเข้าไทยโดยผิดกฎหมาย


12 ก.ค. 2564, 12:46



รวบตัว ! "13 แรงงานเมียนมา" ลักลอบเข้าไทยโดยผิดกฎหมาย




จากนโยบายของ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร.9 กกล.สุรสีห์ พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.อ.ยุทธนา มีเจริญ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์  พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบกงภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.กก.ตชด.13 พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ นายสาวิตร เจียมจิระพร นายอำเภอไทรโยค

 

 ให้เจ้าหน้าที่แต่ละสังกัดสนธิกำลังบูรณาการร่วมกันลาดตระเวนรวมทั้งออกหาข่าวและประจำจุดตรวจร่วมต่างๆตามแนวชายแดนเพื่อป้องกันการกระทำผิดกำหมายทุกชนิดอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะการลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายของแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อป้องกันการนำเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า (อินเดีย)เข้ามาระบาดในพื้นที่จังหวัดชั้นในรวมทั้งจังหวัดกาญจนบุรี

 

จากการบูรณาการร่วมกัน ล่าสุดวันนี้ 12 ก.ค.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายนายสาวิตร เจียมจิระพร นายอำเภอไทรโยค เปิดเผยว่า เวลา 16.30 น.ของวันที่ 11 ก.ค.64 ที่ผ่านมา ตนในฐานะผู้บังคับกองร้อย อส.อ.ไทรโยค ที่ 7 ได้รับแจ้งจาก นายมาลัย กำปั่นทองคำ ผู้ใหญ่บ้านบ้านท่าข้ามสุด หมู่ที่ 8 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค ว่า พบกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเป็นจำนวนมาก ทั้งหมดหลบซ่อนตัวอยู่ชายป่า ท้องที่หมู่ 8 ต.ศรีมงคล

 

หลังจากได้รับแจ้งตน พร้อมด้วย นายสุชาย ไม้แก่นจันทน์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นายนพดล กลิ่นถนอม ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกัน ประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.ไทรโยค  เจ้าหน้าที่ ร้อย ตชด.ที่ 136 เจ้าหน้าที่ทหารกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ วมทั้งสมาชิก อส.  อ.ไทรโยค ที่ 7 และกำนันตำบลศรีมงคล ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 8 ต.ศรีมงคล

 

สนธิกำลังลงพื้นที่ไปตรวจสอบบริเวณพิกัดตามที่ได้รับแจ้ง เมื่อไปถึงพบปรากฎว่าผู้นำพาแรงงานต่างด้าวที่ขับรุยนต์กระบะมารับเห็นเจ้าหน้าที่ จึงได้เร่งเครื่องหลบหนีการจับกุมไปได้ แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ก็สามารถจับกุมตัวกลุ่มแรงงานได้ทั้งหมด จำนวน 13 ราย เป็นชาย 8 คน หญิง 5 คน

 

ซึ่งจากการสอบสวนผู้ถูกจับกุม ทั้ง 13 คน ให้การตรงกันว่า ได้เดินทางมาจาก จังหวัดพะโล ประเทศเมียนมา โดยจ่ายเงินให้กับนายหน้าคนละ 20,000 – 28,000 บาท และอาศัยการเดินเท้าตามเส้นทางธรรมชาติ และเดินข้ามเขาสันแดนเข้ามายังชายแดนฝั่งประเทศไทย ระหว่างผู้นำพานำรถยนต์มารับ ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ได้เดินทางมาถึงเสียก่อน คนนำพาจึงขับรถหลบหนี ทำให้พวกตนต้องมาถูกจับกุมตัว

หลังจากผู้ต้องหารับสารภาพเจ้าหน้าที่จึงดำเนินการตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุขด้วยการวัดอาการไข้ เพื่อป้องกันการนำเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่มาแพร่ระบาด เบื้องต้นอุณหภูมิในร่างกายของแรงงานทั้งหมดไม่เกิน 37.5 องศาฯ และเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการถ่ายรูปตัวผู้ต้องหาทั้งหมดเพื่อทำประวัติเอาไว้ จากนั้นจึงผลักดันกลับสู่ประเทศต้นทางด้วยการใช้ช่องทางด่านห้วยโมง ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี และหากมีการจับกุมครั้งใหม่ แล้วพบประวัติว่าผู้ที่ถูกจับกุมมีประวัติเคยถูกจับกุมมาแล้วครั้งหนึ่ง เจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

 

ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ฝ่ายความมั่นคงและโฆษกประจำกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด ภ.จว.กาญจนบุรี ได้บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เจ้าหน้าที่ ตชด.ที่ 13 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอต่างๆที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ และประชาชน ได้พยายามป้องกันด้วยการลาดตระเวน และออกหาข่าว พร้อมปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจร่วมต่างๆมาอย่างต่อเนื่อง

 

แต่การลักลอบเข้ามาของแรงงานก็ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้หลายคดี โดยทุกๆคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนเพื่อเพื่อขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการตามการสั่งการของ พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผบช.ภาค 7 พล.ต.ต.วัฒนา ยี่จีน รอง ผบช.ภาค 7 ฝ่ายความมั่นคง และ พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ในทุกคดีที่จับกุมได้

 

และที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถขออนุมัติหมายจับผู้ร่วมขบวนการได้ จำนวน 3 หมาย และสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้แล้ว จำนวน 2 หมาย และอีก 1 หมายจับ ผู้ต้องหาเป็นชายชาวเมียนมา ได้หลบหนีการจับกุมไปอาศัยอยู่ประเทศเพื่อนบ้านฝั่งอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมาที่มีชายแดนติดกับบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี

 

 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ทหารชุดประสานงานชายแดนไทย-เมียนมา ให้ช่วยเหลือในการประสานงานกับฝ่ายความมั่นคงของประเทศเมียนมา ในการจับกุมและส่งตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทยแล้ว ส่วนจะสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้เมื่อไหร่นั้น จะต้องคอยติดตามกันต่อไป

 



 


 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.