มจร จัดตั้งห้องประชุมใหญ่วิทยาลัยสงฆ์ร้อยเอ็ด เป็น รพ.สนามแห่งที่ 4 ของจังหวัด
14 ก.ค. 2564, 07:52
เนื่องในสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอย่างหนักอยู่ในเวลานี้ โดยเฉพาะสำหรับกรุงเทพมานครและจังหวัดปริมณฑลที่มีมาตรการจาก ศบค.อย่างเข้มงวดในการออกนอกเคหสถานและปิดแคมป์คนงานทำให้ผู้คนหลั่งไหลกลับภูมิลำเนาเป็นจำนวนมาก เป็นเหตุให้มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กระจัดกระจายกันอยู่ตามพื้นที่จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เป็นเหตุให้โรงพยาบาลประจำจังหวัด โรงพยาบาลประจำอำเภอมีเตียงไม่เพียงพอสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ในขณะนี้ เช่น ในจังหวัดร้อยเอ็ด โรงพยาบาลจังหวัด โรงพยาบาลสนามอีก 2 แห่งเต็มหมด แต่คนที่ติดเชื้อและยังรอเตียงยังมีอีกเป็นจำนวนมาก
ผู้คนที่ติดเชื้อ ร้องขอความช่วยเหลือ รอความหวัง รอเตียง กลายเป็นทุกข์ของคนทั้งประเทศ เป็นภาพที่ไม่มีใครอยากเห็น ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ผู้ว่าราชการจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจังหวัด ต่างวิ่งหาสถานที่เพื่อขอจัดตั้งโรงพยาบาลสนามกันอลหม่านไปหมด บางที่ก็น่าเห็นใจที่โรงเรียน มหาวิทยาลัย สถานที่ทางการ ท้องถิ่น ต่างปฎิเสธไม่ขอเป็นสถานที่ตั้งของโรงพยาบาลสนาม ปฎิเสธด้วยเหตุผลต่างๆนาๆทั้งที่หน่วยงานเหล่านั้นล้วนได้รับงบประมาณจากภาครัฐซึ่งเป็นภาษีอากรของประชาชนทั้งประเทศ
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยพระธรรมวัชรบัณฑิต อธิการบดี ได้ตระหนักถึงทุกข์ครั้งใหญ่ของคนในประเทศในครั้งนี้ จึงมีนโยบายให้วิทยาเขต วิทยาลัยสงฆ์ในสังกัดทั่วประเทศให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลังและขอให้ทุกที่ทุกแห่งให้ความร่วมมือกับฝ่ายบ้านเมืองในแก้ปัญหาของประเทศชาติในครั้งนี้ เช่น จัดตั้งโรงทานแจกอาหารกระจายไปในทุกภูมิภาคของประเทศ บริจาคสิ่งของที่จำเป็นและขาดแคลนให้กับโรงพยาบาลสนาม เป็นต้น
บัดนี้ เมื่อทางการขาดแคลนสถานที่ตั้งโรงพยาบาลสนาม วิทยาลัยสงฆ์ร้อยเอ็ด มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยพระราชพรหมจริยคุณ เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด ประธานกรรมการวิทยาลัยสงฆ์ร้อยเอ็ด พระครูวาปีจันทคุณ ผอ.วิทยาลัยสงฆ์ร้อยเอ็ด พร้อมด้วยผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าและนิสิตได้ร่วมใจกันเสียสละยกห้องประชุมใหญ่วิทยาลัยสงฆ์ร้อยเอ็ดให้เป็นสถานที่ตั้งโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 4 ของจังหวัดเพื่อช่วยชีวิตประชาชนคนร้อยเอ็ดด้วยกัน
ในส่วนของวิทยาลัยสงฆ์ศรีสะเกษ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พระอุดมปัญญาภรณ์ รักษาการผู้อำนวยการวิทยาลัยสงฆ์ศรีสะเกษ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่และนิสิตก็ได้ให้ความร่วมมือกับทางจังหวัดยินยอมให้จังหวัดมาเปิดเป็นโรงพยาบาลสนามเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและรักษาชีวิตประชาชนชาวศรีสะเกษ
ในส่วนภาคใต้ทั้งวิทยาลัยสงฆ์ ปัตตานี สุราษฎร์ธานีและวิทยาเขตนครศรีธรรมราช ต่างก็เร่งทำงานช่วยเหลือประชาชนเท่าที่มีกำลังเพียงพออย่างเต็มกำลัง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีวิทยาเขตหนองคาย ขอนแก่น อุบลราชธานี สุรินทร์ นครราชสีมา วิทยาลัยสงฆ์เลย ชัยภูมิ นครพนม บุรีรัมย์ มหาสารคาม ยินดีให้ความร่วมมือและขณะนี้ทุกแห่งก็ต่างทำโรงหรือบริจาคสิ่งของเพื่อบรรเทาทุกข์ในเบื้องต้นในทุกที่ทุกแห่ง
ภาคเหนือ มีวิทยาเขตเชียงใหม่ แพร่ พะเยา นครสวรรค์ วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน พุทธชินราช พิษณุโลก น่านเฉลิมพระเกียรติ ลำปาง เชียงราย พ่อขุนผาเมือง เพชรบูรณ์ พิจิตร อุทัยธานี ต่างก็ปฎิบัติกิจในการให้ความช่วยเหลือประชาชนเช่นเดียวกัน
ภาคกลางวิทยาเขตบาฬีศึกษาพุทธโฆส นครปฐม วิทยาลัยสงฆ์พุทธโสธร ฉเชิงเทรา ราชบุรี พุทธปัญญาศรีทวารวดี วัดไร่ขิง สุพรรณบุรี ระยอง เพชรบุรี ชลบุรี กาญจนบุรี ต่างก็ทำงานหนักในเรื่องนี้ไม่แพ้กัน
นี่คือภารกิจของชาวมหาจุฬาฯที่ให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ และให้ใช้สถานทึ่เพื่อจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในคราวที่เพื่อนร่วมชาติมีความทุกข์และวิกฤติอย่างแสนสาหัส