วันนี้ ( 28 ก.ค. 2564 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายเจริญ ใจชน หน.อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่และชาวบ้านที่สัญจรไปมา บนถนนชนบท ช่วงบ้านไร่ - บ้านอีต่อง ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ภายหลังจากที่มีฝนตกลงมาในพื้นที่ติดต่อกันเกือบ 15 วัน จนส่งผลให้ดินบนภูเขาชุ่มน้ำ ก่อนเกิดการสไลด์ลงมาปิดเส้นทาง หลายจุด นอกจากนั้นบางช่วงยังมีต้นไม้แห้งที่ยืนต้นตาย เกิดล้มลงมาขวางถนน ทำให้รถยนต์ของชาวบ้านไม่สามารถเดินทางผ่านได้

เจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ใช้เวลานานหลายชั่วโมงในการตัดต้นไม้ และใช้อุปกรณ์ที่มีเปิดเส้นทาง เพื่อให้รถของชาวบ้านสัญจรไปมาได้ ชั่วคราว ก่อนจะประสานหมวดการทางทองผาภูมิ นำเครื่องจักรเข้ามาปรับปรุงถนนให้กลับคืนสู่สภาพปกติ

ทั้งนี้ถนนชนบท บ้านไร่-บ้านอีต่อง เป็นเส้นทาง 2 ช่องทางจราจร พื้นที่บนภูเขาสูงชัน ลัดเลาะภูเขา ซึ่งทุกปีเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนมักจะประสบปัญหา ดินภูเขาจะสไลด์ลงมาปิดเส้นทาง

ด้านนายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน ขับขี่ด้วยความระวัดระวัง และหากพบเห็นดินสไลด์ หรือ ต้นไม้ล้มขวางถนน สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ที่อยู่ประจำตามด่านตรวจของอุทยานฯได้ หรือจะโทรศัพท์แจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 098-2520359

ขณะที่เยาวชนสังขละบุรีกลุ่มหนึ่ง ที่รวมตัวกันทำกิจกรรมจิตอาสา ในนามกลุ่มจิตอาสาสังขละบุรี กว่า 20 คน เดินทางด้วยรถจักรยานยนต์ และรถขับเคลื่อนสี่ล้อ ฝ่าสายฝน และดินโคลน เข้าไปยังบ้านโจ่คีพื่อ ม.1 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เพื่อช่วยซ่อมแซมสะพาน ข้ามลำห้วยซองกาเลีย ภายหลังจากโดนน้ำป่าในลำห้วยซองกาเลียพัดพาท่อนไม้ และสวะ มาติดสะพานจนเกือบจะทำให้สะพานได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้สะพานดังกล่าวเป็นสะพานแขวน ที่มีกลุ่มจิตอาสา ได้เข้ามาช่วยกันสร้างไว้ให้ชาวบ้านโจ่คีพื่อ 11 ครอบครัว ใช้เดินทางออกจากหมู่บ้าน เพื่อซื้ออาหาร ติดต่อราชการ หรือไปโรงพยาบาลในยามที่เจ็บป่วย ทั้งนี้หลังจากเกิดฝยตกลงมาติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้น้ำในลำห้วยซองกาเลียสูงขึ้น กระแสน้ำไหลเชี่ยว จนท่วมสะพานเมื่อคืนวันที่ 26 ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งข่าวจากชาวบ้าน จิตอาสากลุ่มนี้จึงเดินทางเข้ามาร่วมกับชาวบ้านในการเก็บกิ่งไม้ ท่อนไม้ ที่ลอยมาติดสะพาน นอกจากนั้นยังได้ปลดสลิงที่ยึดเป็นราวกันตก เพื่อเปิดทางให้น้ำผ่านได้สะดวกหากเกิดเหตุการณ์น้าป่าไหลหลากท่วมสะพานอีก ทั้งนี้เพื่อป้องกันความเสียหายของสะพาน

นอกจากนั้นเยาวชนอีกกลุ่มที่เป็นผู้หญิงยังได้นำขนมเข้าไปมอบให้เด็กๆที่อยู่ในหมู่บ้านกว่า 15 คน เพื่อให้เด็กๆไว้กิน เนื่องจากช่วงนี้ชาวบ้านหวาดกลัวโควิต 19 ที่ระบาดในพื้นที่ เขตเทศบาลตำบลวังกะ และบ้านพระเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จนชาวบ้านไม่กล้าเดินทางออกไปซื้อสินค้าอุปโภค บริโภค ประกอบกับฝนที่ตกลงมาทำให้เส้นทางเข้าออกหมู่บ้านมีความยากลำบาก

ซึ่งกลุ่มจิตอาสาได้ประสานขอรับถุงยังชีพจาก กิ่งกาชาดอำเภอสังขละบุรี พร้อมทั้งประกาศรับบริจาค ของใช้ในครัวเรือน เช่น เครื่องปรุงรส น้ำตายทราย น้ำมันพืช เกลือปรุงรส อาหารแห้ง เพื่อจะนำเข้าไปมอบให้ชาวบ้าน 11 ครอบครัวที่บ้านโจ่คีพื่อ อีกครั้งในวันเสาร์ที่ 31 ที่จะถึงนี้