สธ.แนะ 10 ข้อป้องกันเชื้อโควิด ย้ำปฏิบัติทันทีเมื่อกลับถึงบ้าน
29 ก.ค. 2564, 13:10
นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะนี้พบว่า เชื้อมีการแพร่กระจายในวงกว้างทั่วประเทศ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 10,000 รายต่อวัน ซึ่งกรมควบคุมโรคได้ร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เร่งป้องกันควบคุมเพื่อยุติการแพร่ระบาดให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ให้น้อยลง ซึ่งจะสามารถลดจำนวนผู้ป่วยเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้
ทั้งนี้ จากการสอบสวนโรคในผู้ที่ติดเชื้อ มีข้อสังเกตพบว่าผู้ติดเชื้อไม่สามารถระบุพิกัดหรือแหล่งของการติดเชื้อเหมือนที่ผ่านมาได้ ดังนั้น กรมควบคุมโรค จึงมุ่งเน้นที่การป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสโควิดเข้าสู่บ้านเรือนที่พักอาศัยทุกประเภทให้ได้มากที่สุด เพื่อให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย ปลอดเชื้อ จึงขอแนะแนวทางปฏิบัติ 10 ประการ ให้ประชาชนนำไปปฏิบัติทันทีหลังจากออกไปทำกิจกรรมหรือทำธุระนอกบ้าน เนื่องจากขณะอยู่นอกบ้านอาจสัมผัสเชื้อโรคโควิด-19 และนำเชื้อเข้ามาในบ้านหรือที่พักอาศัยโดยไม่รู้ตัว โดยขอให้ปฏิบัติดังต่อไปนี้
1.ทำความสะอาดรถยนต์ทุกครั้งหลังใช้งาน โดยใช้น้ำผสมผงซักฟอกทั่วไปหรือน้ำยาฆ่าเชื้อ เช็ดทำความสะอาดที่ปิดเปิดประตูรถและห้องโดยสารภายในเช่น เบาะที่นั่ง พวงมาลัย ปุ่มเปิด-ปิดแอร์ วิทยุ เป็นต้น
2.เก็บรองเท้าไว้นอกบ้าน นอกห้อง
3.ถอดหน้ากากอนามัยใส่ถุงให้มิดชิด และทิ้งในถังขยะที่มีฝาปิดแยกเฉพาะ
4.เช็ดทำความสะอาดกระเป๋า โทรศัพท์มือถือ นาฬิกาข้อมือ แว่นตากุญแจบ้าน กุญแจรถ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
5.ล้างมือฟอกสบู่นานอย่างน้อย 20 วินาที
6.หลีกเลี่ยงการสัมผัสสิ่งของในบ้านหรือนั่งบนเก้าอี้ โซฟา ก่อนอาบน้ำ
7.ไม่สัมผัสสัตว์เลี้ยง หรือบุคคลในบ้าน ก่อนอาบน้ำ
8.แยกเสื้อผ้าที่ใส่ไปนอกบ้านออกจากเสื้อผ้าที่ใช้ใส่ในบ้าน ไม่ให้ปะปนกัน
9.อาบน้ำสระผมทันที
และ 10.เมื่อรับประทานอาหารร่วมกันกับสมาชิกในบ้าน ให้ใช้ช้อนกลางส่วนตัวตักอาหาร
นายแพทย์โสภณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อปฏิบัติข้างต้นจะเสริมกับมาตรการของรัฐบาล และขอให้ลดการออกนอกบ้านโดยไม่จำเป็น เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งมั่นใจว่าความร่วมมือจากประชาชน จะสามารถชะลอการติดเชื้อรายใหม่ได้ โดยประชาชนสามารถติดตามข่าวสารคำแนะนำของกรมควบคุมโรคได้ที่เว็บไซต์กรมควบคุมโรค และเฟซบุ๊กกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422