รวบตัว ! "นักโทษชายแหกคุก" คาห้องพักรีสอร์ท หลังเมียขี่จยย. พาหนีพร้อมลูกน้อยวัย 1 ขวบ
4 ส.ค. 2564, 11:15
เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 3 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมกับกำลังตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี ได้บุกเข้าจับกุมนายอาทิตย์ อายุ 25 ปี หรือเกอร์ บ้านบึง นักโทษชาย รายที่ 5 ที่แหกคุกจากเรือนจำสุพรรณบุรี ได้ภายในห้องพักรีสอร์ทแห่งหนึ่งพื้นที่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี พร้อม น.ส.ตติยา หรือ ต้อม อายุ 27 ปี โดยมีลูกชายอายุ 1 ขวบเศษอยู่ด้วย
จับกุมตัวได้ขณะทั้ง 3พ่อแม่ลูก กำลังนั่งอยู่ภายในห้องพักโดยไม่มีการต่อสู้และขัดขืนแต่อย่างใด ยึดรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีเทาดำ ซึ่งเป็นรถจักรยานต์คันที่ภรรยานายอาทิตย์ใช้เป็นพาหนะขี่พาหลบหนี
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายอาทิตย์กับภรรยาขี้นรถเดินทางมาสอบสวนเพื่อสาเหตุที่เรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี โดยพาลูกชายวัย 1 ขวบเศษมาด้วย
เมื่อมาถึงเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ได้พาตัวเข้าห้องประชุมของเรือนจำ โดยนายสมศักดิ์ เขียวอ่อน ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี ได้สั่งให้พยาบาลประจำเรือนจำทำการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด 19 จากนักโทษชายอาทิตย์ และภรรยา ทันทีผลการตรวจพบว่าเป็นลบ
จากการสอบสวนนายอาทืตย์ให้การว่าหลังจากที่ได้แหกคุกหนีออกไปได้แล้ว ได้หลบหนีการไล่ล่าของเจ้าหน้าที่พอถึงช่วงกลางคืนได้พบกับชาวบ้านที่มาเฝ้านาอยู่ จึงหลอกชาวบ้านที่ไปเฝ้านาข้าวว่าเพิ่งพ้นโทษออกจากเรือนจำ และที่ใส่โซ่ตรวนที่ขาอยูานั้น ใส่เพื่อเดินแก้บน อ้างว่าบ้านอยู่ ดอนคา อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี จึงได้ขอร้องให้ชาวนา ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งที่บ้าน ต.ดอนคา อ.อู่ทอง ชาวนาหลงเชื่อขี่รถจักรยานยนต์ไปส่พื้นที่ ต.ดอนคา จากนั้นได้เข้าไปขอยืมโทรศัพท์จากชาวบ้านโทรศัพท์ติดต่อไปหา แม่บอกว่าแหกคุกหนีมา และได้พยายามโทรติดต่อไปที่ภรรยา เพื่อนัดหมายให้ภรรยาขี่รถจักยานยนต์มารับหลบหนีต่อไป
กระทั่งเช้าวันที่ 2 สิงหาคม ช่วงเวลาประมาณ 07.30 น. ภรรยา ได้ขี่รถจักรยานยนต์ ออกจากบ้านที่ ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองสุพรรณบุรี พร้อมลูกชายวัย 1 ขวบเศษมารับนักโทษชายอาทิตย์ ในพื้นที่ ต.ดอนคา พาหลบหนีต่อ โดยหวังจะไปอาศัยเครือข่ายยาเสพติดที่รู้จักกันในพื้นที่ อ.อู่ทอง และ อ.ด่านช้าง หวังกบดานชั่วคราวก่อน แต่ไม่มีใครกล้าให้ที่หลบซ่อนเนื่องจากนายอาทิตย์เป็นผู้ต้องหาแหกคุกรายสำคัญที่กำลังเป็นข่าวโด่งดังมีภาพชัดเจน
ต่อมาจึงตัดสินใจหนีต่อ มุ่งหน้าเข้าพื้นที่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ระหว่างทางได้แวะไปบ้านของปู จ.ชัยนาท ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกับ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี เพื่อไปตัดโซ่ตรวนออก ก่อนจะไปขออาศัยบารมีของเครือข่ายยาเสพติดที่มีอิทธิพลในพื้นที่ จ.อุทัยธานี แต่ก็ถูกปฏิเสธอีก จึงได้ชวนภรรยาพากันเข้าไปเช่ารีสอร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บ้านไร่ เพื่อกบดานชั่วคราว แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี และชุดสืบสวน สภ.บ้านไร่ เจ้าหน้าที่เรือนจำสืบสวนติดตามจับกุมตัวได้ก่อน
ด้านนางสมบัติ กลิ่นขจร แม่ของนักโทษชายอาทิตย์ หลังจากทราบว่าลูกชายถูกจับแล้วได้พากันครอบพ่อและย่าของนักโทษชายอาทิตย์ เดินทางมารอลูกชายและลูกสะใภ้ ที่หน้าเรือนจำสุพรรณบุรี หลังจากนายอาทิตย์กับลูกสะใภ้ลงจากรถ ลูกสะใภ้ได้อุ้มหลานชายวัย1ขวบเศษมาให้กับนางสมบัติ ให้นำไปเลี้ยงดู โดยนางสมบัติและครอบครัวกล่าวทั้งน้ำตาว่ารู้สึกดีใจที่เห็นว่านายอาทิตย์ลูกชายปลอดภัยเพราะว่าอยากเห็นหน้าลูกอีกซักครั้ง
โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนกับย่านายอาทืตย์ได้นำไก่ต้มและเหล้าขาวไปบนบานศาลกล่าว ขอให้นายอาทิตย์ปลอดภัยและให้เข้ามอบตัว ซึ่งนายอาทิตย์ก็ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตามจับกุมตัวได้ที่สำคัญคือได้เห็นว่าลูกชายปลอดภัยดี
ด้านนายสมศักดิ์ เขียวอ่อน ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่าจากการสอบปากคำเบื้องต้นยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของนักโทษอาทิตย์และภรรยา อย่างไรก็ตามจะได้สอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งและเตรียมจะแถลงข่าวในวันที่พรุ่งนี้