คืบหน้า ! "ป้าวัย 61 ปี" อ้างธนาคารดังหลอกเปิดบัญชีกู้เงิน แต่กลับโดนเบี้ยว "ผจก." เผยคุณสมบัติไม่ผ่าน
14 ส.ค. 2564, 07:22
จากกรณีที่นางจันทร์ทิพย์ แพรบุตร หรือชื่อเดิมคือ นางทองหยิบ ศรีธัญรัตน์ อายุ 61 ปี ได้เข้าร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ ด้วยน้ำตานองหน้าว่า ขณะนี้กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากว่าถูกธนาคารชื่อดัง หลอกให้นำเอาเงิน จำนวน 30,000 บาท ไปปิดบัญชีเงินกู้ธนาคาร โดยทางธนาคารแจ้งว่าจะให้สิทธิ์กู้เงิน จำนวน 200,000 บาท แต่เมื่อได้ไปกู้เงินนอกระบบมาปิดบัญชีเงินกู้เพื่อที่จะขอกู้เงินใหม่ เพื่อจะนำเอาเงินมาใช้ในการประกอบอาชีพทำขนมขายที่ตลาดสดเทศบาลเมืองศรีสะเกษ กลับถูกธนาคารบ่ายเบี่ยงไม่ยอมให้กู้เงินโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้ต้องไปหากู้ยืมเงินกู้นอกระบบมาทำทุนค้าขาย ส่งผลให้ขณะนี้ติดหนี้เงินกู้นอกระบบรวมแล้วเป็นเงินกว่า 150,000 บาท จึงได้ทุกข์กับผู้สื่อข่าวเพื่อขอให้ธนาคารชื่อดังได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบที่หลอกให้ตนนำเอาเงินไปปิดบัญชีเงินกู้ แล้วไม่ให้ตนยืมเงิน จำนวน 200,000 บาทตามที่ตกลงกันไว้ เห็นว่าตนไม่ได้เรียนหนังสือ จึงได้หลอกลวงตน ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง หากตนไม่โดนธนาคารหลอก ตนก็คงจะไม่ต้องตกอยู่ในสภาวะเช่นนี้ ทำให้ชีวิตของตนได้รับความลำบากอย่างหนัก จึงขอให้ธนาคารได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบในเรื่องนี้ด้วย ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 13 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย สาขาศรีสะเกษ ได้ไปขอพบกับนายปรัชญา สืบสิงห์ ผจก.ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย สาขา จ.ศรีสะเกษ ซึ่งพบว่ามี นายวาริช ล้วนวิลัยสกุล ผจก.เขตพื้นที่ศรีสะเกษ – สุรินทร์ กำลังมาตรวจงานที่สาขาศรีสะเกษอยู่ด้วย ทั้งนี้ เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงกรณีที่นางจันทร์ทิพย์ แพรบุตร ได้ร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวดังกล่าว ซึ่งนายปรัชญา ได้อธิบายถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นให้กับผู้สื่อข่าวได้ทราบว่า มีความเป็นมาอย่างไร และเพราะเหตุใดทางธนาคารจึงไม่ได้อนุมัติเงินกู้ให้กับนางจันทร์ทิพย์ ได้
นายปรัชญา สืบสิงห์ ผจก.ธนาคารไทยเครดิตเพื่อรายย่อย สาขา จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ช่วงปี 2563 นางจันทร์ทิพย์ แพรบุตร ได้มาขอกู้เงินจากธนาคารเพื่อนำเอาเงินไปลงทุนในการค้าขาย ซึ่งนางจันทร์ทิพย์ ได้ผ่อนชำระเงินหนี้เงินกู้ดีมาก ตามเกณฑ์ต้องผ่อนชำระเพียง 1,100 บาท แต่ว่านางจันทร์ทิพย์จะผ่อนชำระหนี้มากกว่าที่กำหนดไว้ โดยผ่อนชำระเงินกู้ครั้งละ 1,200 – 1,500 บาท คาดว่าต้องการใช้หนี้เงินกู้ให้หมดภาระเร็วขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นลูกค้าชั้นดี พอนางจันทร์ทิพย์ผ่อนหนี้ไปได้ประมาณ 8 เดือน นางจันทร์ทิพย์ ได้มาพบกับเจ้าหน้าที่ของธนาคารแจ้งว่า จะขอกู้เงินเพิ่มอีกจำนวน 100,000 บาท ซึ่งตนได้แจ้งเงื่อนไขของธนาคารว่า หากจะขอกู้เงินเพิ่มจะต้องนำเอาเงินมาใช้หนี้เงินกู้เก่า จำนวน 30,000 บาทเสียก่อนจึงจะสามารถยื่นเรื่องขอกู้เงินใหม่ได้ตามระเบียบของธนาคารที่กำหนดไว้
ซึ่งต่อมา นางจันทร์ทิพย์ ได้นำเงินจำนวน 30,000 บาท มาชำระหนี้เงินกู้กับธนาคารและได้ยื่นเรื่องขอกู้เงินใหม่ยอดเงินกู้จำนวน 100,000 บาท โดยตนไม่ได้รับทราบเลยว่า นางจันทร์ทิพย์ ไปได้เงินมาจากไหนอย่างไร เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนตัวของนางจันทร์ทิพย์ เมื่อได้รับเรื่องขอกู้เงินจากนางจันทร์ทิพย์แล้ว ตนได้ให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบข้อมูลของนางจันทร์ทิพย์ ว่าเป็นไปตามคุณสมบัติที่ทางธนาคารกำหนดไว้ จำนวน 19 ข้อหรือไม่
แต่จากการตรวจสอบพบว่า นางจันทร์ทิพย์มีคุณสมบัติไม่เข้าตามหลักเกณฑ์ของธนาคาร ทำให้หน่วยเหนือไม่สามารถอนุมัติเงินกู้ให้ได้ ตนจึงได้แจ้งเรื่องนี้ให้กับนางจันทร์ทิพย์ ทราบแล้ว แต่ว่าตนยังได้ให้การช่วยเหลือนางจันทร์ทิพย์ โดยเสนอเรื่องขอกู้เงินของนางจันทร์ทิพย์ ไปยังหน่วยเหนือเพื่อขออนุมัติเงินกู้ของนางจันทร์ทิพย์ให้อีกรวมแล้ว 2 ครั้ง แต่ว่าคุณสมบัติของนางจันทร์ทิพย์ ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของทางธนาคารทำให้ไม่ได้รับอนุมัติให้กู้เงิน ส่วนคุณสมบัติของนางจันทร์ทิพย์ที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์นั้น ตนไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะว่าเป็นความลับส่วนตัวของลูกค้า
ตนขอฝากถึงนางจันทร์ทิพย์ว่า ธนาคารยังพร้อมที่จะให้การสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของการบริการหรือรูปแบบของการให้บริการสินเชื่อรวมทั้งให้ บริการลูกค้าทุกท่านด้วย ทางธนาคารไทยเครดิตพร้อมที่จะเปิดประตูให้บริการลูกค้าทุกคนเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้ารายย่อยทุกท่าน ทางเราพร้อมที่จะให้การบริการอย่างสุดความสามารถ