ลูกเมายาเผาบ้านตัวเอง อ้างแค้นพ่อแม่เลี้ยงดูไม่ดี
6 ก.ย. 2564, 15:16
วันที่ 6 ก.ย. 64 ร.ต.อ.นิติพัฒน์ รุ่งเรือง รอง สว.สอบสวน สภ.ชนบท รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้าน ที่บ้านดอนดู่ หมู่ที่ 9 ต.ศรีบุญเรือง อ.ชนบท จ.ขอนแก่น จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชาญศิลป์ นาสูงชน ผกก.สภ.ชนบท และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหลายนาย เมื่อไปถึงในหมู่บ้าน พบว่าบ้านหลังเกิดเหตุเป็นบ้านสองชั้น ครึ่งปูน ครึ่งไม้ เลขที่ 85 ม.9 บ้านดอนดู่ เป็นบ้านของนางหนูเล็ก ยิ่งยง อายุ 49 ปี แต่มีเพียงลูกชายชื่อนายเม่น หรือ นายวราฤทธิ์ อาจคำภา อายุ 29 ปี อาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว เพียงลำพัง
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจาก อบต.ศรีบุญเรือง และจากอำเภอชนบท จากหน่วยงานที่อยู่ใกล้เคียง ร่วมกันดับเพลิงประมาณ 30 นาทีเพลิงจึงสงบและไม่ลุกลามไปยังบ้านข้างเคียงแต่อย่างใด แต่ไฟได้ไหม้บ้านเสียหายทั้งหลัง และไม่พบคนอยู่ในบ้าน มูลค่าความเสียหายประมาณ 800,000 บาท
สอบสวนนายสกล หะวะนิช อายุ 60 ปี ชาวบ้านที่มีบ้านติดกันและเห็นเหตุการณ์ ในเบื้องต้นทราบว่า บ้านหลังเกิดเหตุมีเพียงนายเม่น อยู่คนเดียว และช่วงกลางดึกเปิดไฟทั้งบ้าน อาละวาดทำลายสิ่งของในบ้าน จากนั้นก็มีเปลวไฟลุกไหม้ที่ชั้นสอง ชาวบ้านจึงรีบขอความช่วยเหลือจากตำรวจ สภ.ชนบท และเจ้าหน้าที่ดับเพลิง รวมทั้งแจ้งให้พ่อแม่ของนายเม่นทราบเรื่อง ส่วนนายเม่นนั้น หลังเกิดเหตุเห็นวิ่งหนีออกจากบ้านไปจากนั้นก็มีเสียงถังแก๊สระเบิดเป็นเพลิงลุกไหม้ทั้งบ้าน ในขณะที่พ่อแม่ และชาวบ้านต่างก็เชื่อว่าไฟไหม้ในครั้งนี้เกิดจากฝีมือของนายเม่น ซึ่งหลังเกิดเหตุได้หลบหนีไป
ล่าสุดเวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ชนบท ได้ควบคุมตัว นายเม่น ซึ่งเป็นบุคคลต้องสงสัยว่าจะลงมือเผาบ้านตัวเองได้ขณะนอนหลับอยู่ที่กระท่อมนา ห่างจากหมู่บ้านไปประมาณ 1 กม. นำตัวสอบสวนโดย พ.ต.อ.ชาญศิลป์ นาสูงชน ผกก.สภ.ชนบท ทำการสอบสวนนายเม่นด้วยตัวเอง โดยมีพ่อแม่ นั่งฟังการสอบสวนด้วย
พ.ต.อ.ชาญศิลป์ กล่าวว่า นายเม่น ให้การว่าอยู่ที่บ้านและมีเพื่อนมาหาจึงพากันส่องพระ ถึงประมาณเที่ยงคืนเพื่อนกลับออกไป จากนั้นเวลาประมาณตีสาม ตัวเองจึงออกจากบ้านไปนอนที่นา โดยไม่ทราบเรื่องไฟไหม้บ้าน และตนเองก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย ถ้าใครกล่าวหาจะแจ้งความกลับให้หมด ก่อนจะนำตัวไปตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด พบว่าเป็นสีม่วง ซึ่งรับสารภาพว่า ได้เสพยาบ้า 2 เม็ดจากนั้นก็เมายาบ้า จึงก่อเหตุเผาบ้านทิ้งประชดพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกไม่ดี ทำให้ลูกลำบาก จึงได้แจ้งข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) และข้อหา วางเพลิงเผาทรัพย์คุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ นางหนูเล็ก ยิ่งยง แม่นายเม่น กล่าวว่า เมื่อก่อนอยู่ที่บ้านหลังเดียวกับลูกชาย แต่ลูกชายชอบชีวิตอิสระ ไม่อยากอยู่ร่วมกับครอบครัว พ่อแม่จึงได้ไปสร้างบ้านอีกหลังอยู่ ส่วนบ้านหลังเกิดเหตุได้ปล่อยให้นายเม่น ลูกชายอยู่กับตา แต่นายเม่นชอบขู่ฆ่าตา ขู่ฆ่าคนในบ้าน เมื่อเมายาบ้าก็อาละวาดทำลายข้าวของ จึงนำตาออกไปอยู่บ้าน นายเม่นจึงอยู่คนเดียวและมักจะมีเพื่อนๆ ในกลุ่มเสพยาบ้ามามั่วสุมกัน แต่ไม่ได้ทอดทิ้งลูกชาย เพราะทุกเช้าและเย็นจะนำข้าวพร้อมอาหารมาส่งให้ทุกวัน
นางหนูเล็ก กล่าวอีกว่า นายเม่นไม่เคยช่วยทำมาหากิน มีแต่สร้างความเดือดร้อน และมั่วสุมเสพยาบ้า เมามาก็ขู่ฆ่าคนในครอบครัว ทำลายข้าวของ และไฟไหม้บ้านครั้งนี้ ก็เชื่อว่าเป็นฝีมือของนายเม่นลูกชาย เพราะลูกชายเคยพูดไว้ว่า เป็นพ่อแม่เลี้ยงลูกไม่ดี จะเผาบ้านทิ้งจากนั้นจะมาฆ่าทุกคนในครอบครัว เมื่อทุกคนในครอบครัวตาย ทรัพย์สินของแม่ที่เป็นมารดาจะเป็นของลูก ลูกจะขายเอาเงินมาใช้ จ่ายหาความสุขให้ตัวเอง อีกทั้งเพื่อนบ้านใกล้เคียงเห็นลูกชายเมายาบ้าอาละวาดมาทั้งวัน กลางคืนจึงเผาบ้านแล้วหนีออกไป ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจับกุมลูกชาย ดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะถ้าอยู่ในคุก ครอบครัวและชาวบ้านคงจะสงบสุข
เก็บข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจากนั้นก็ติดตามหาตัวนายเม่น กระทั่งพบนอนอยู่ที่กระท่อมนา จึงควบคุมตัวมาสอบสวนและตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด พบว่าเป็นสีม่วง ซึ่งนายเม่นรับสารภาพว่า ได้เสพยาบ้า 2 เม็ดจากนั้นก็เมายาบ้า จึงก่อเหตุเผาบ้านทิ้งประชดพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกไม่ดี ทำให้ลูกลำบาก จึงได้แจ้งข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) และข้อหา วางเพลิงเผาทรัพย์คุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.