เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2564 ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจาก นาย วัชระพงษ์ ดอกประทุม อายุ 29 ชาวบ้านหมู่ที่ 6 บ้านบึง ต.บ้านแร่ อ.เขวาสินรินทร์ (ขวาว-สิน-นะ-ริน) จ.สุรินทร์ ว่าถนนท้ายหมู่บ้านที่เชื่อมต่อระหว่างบ้านบึง ไปบ้านขนาด ตำบลแร่ และไปเมืองสุรินทร์ ซึ่งเป็นถนนเส้นทางลัดที่ย่นระยะทางจากถนนเส้นหลักราว 3 กิโลเมตร เกิดเป็นหลุมเป็นบ่อตลอดระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร

ซึ่งผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบเป็นถนนฝั่งคุ้มโคกกลาง (คุ้ม3) ที่มีบ้านเรือนของชาวบ้านเกือบ 20 หลังคาเรือน โดยลักษณะเป็นหลุมเป็นบ่อ มีน้ำขังเนื่องจากเกิดฝนตก และสภาพถนนเป็นดินเหนียว จึงทำให้เกิดการลื่นไถลได้ง่ายรถเล็กรถใหญ่ผ่านไม่ได้ ต้องอ้อมไปอีกเส้นทาง ซึ่งมีระยะทางที่ไกลกว่า โดยมีชาวบ้านในคุ้มโคกกลาง(คุ้ม3)ราว 10 คน ที่ได้เดินทางนำต้นกล้วย ต้นมัน มาปลูก ใช้ขันช่วยกันวิดน้ำออกจากถนน และได้นำ แห มาหว่านจับปลาจับกบเขียดโชว์ แสดงออกเชิงสัญลักษณ์เพื่อประชดภาครัฐ เนื่องจากเดือดร้อนและเป็นแบบนี้มานานแล้ว สำหรับรถจักรยานยนต์ หรือรถจักรยานที่ต้องการผ่านเส้นทางนี้ จะต้องขับด้วยความระมัดระวังอย่างมาก เพราะเป็นดินเหนียวจะเกิดการลื่นไถลได้ง่าย หรือแม้แต่รถไถนาของชาวบ้านที่ใช้สัญจรยังติดหล่ม ต้องขับผ่านด้วยความทุลักทุเล

นางคำผ่อง อยู่รอย อายุ 53 ปี กล่าวว่า พวกตนเดินทางไม่สะดวกเลย ซึ่งเมื่อเข้าฤดูฝนของทุกปี ถนนก็จะอยู่ในสภาพเช่นนี้ ถ้าจะเดินทางไปต่างหมู่บ้าน หรือเข้าเมืองสุรินทร์ จะต้องอ้อมไปถนนสายหลักในหมู่บ้าน ซึ่งมันจะยืดระยะทางไกลไปอีกกว่า 3 กิโลเมตร พวกตนจึงอยากได้ถนนดีๆบ้าง หากเป็นถนนคอนกรีตเลยยิ่งดี โดยก่อนหน้านี้หากมีการจัดประชุมหมู่บ้าน ชาวบ้านได้ยกมือขอถนนมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ไม่เห็นทำให้สักที

นายวัชระพงษ์ ดอกประทุม อายุ 29 ปี เล่าว่า ตนอยากให้ทุกคนเห็นสภาพถนน ซึ่งรถยนต์หรือ จยย.ก็ไม่สามารถผ่านไปได้ ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ไปสอบถามเจ้าหน้าที่ อบต.ก็ได้รับคำตอบว่า งบประมาณมาแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะอยู่ในช่วงที่ฝนตก ตนจึงสงใสว่า ทำไมไม่เอาหินมาเทลงให้ก่อน ในเมื่อถนนเส้นนี้ไม่สามารถใช้งานได้ ไปได้แต่รถไถนา สำหรับใครที่ต้องการไปอีกหมู่บ้าน หรือต้องการเข้าเมืองสุรินทร์ จะต้องอ้อมไปใช้เส้นทางหลัก ซึ่งไกลกว่าราว 3 กิโลเมตร