สธ. ยัน! คนฉีดซิโนแวคครบ 2 เข็มตั้งแต่ต้นปี ได้บูสเตอร์เข็ม 3 เดือน ต.ค. นี้
11 ก.ย. 2564, 15:29
เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2564 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวประเด็นการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ว่า เมื่อวานนี้ (10 ก.ย. 64) ที่ประชุม ศบค.เห็นชอบแผนการจัดหาและแผนการฉีดวัคซีนในเดือนต.ค.64 ที่เราจะมีวัคซีนซิโนแวคเข้ามา 6 ล้านโดส แอสตร้าเซนเนก้า 10 ล้านโดส ไฟเซอร์ 8 ล้าน ฉะนั้น แผนการฉีดของเราอยู่ 24 ล้านโดส นอกจากนั้น ยังมีวัคซีนซิโนฟาร์ม ที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์นำเข้ามาอีก 6 ล้านโดส จึงเห็นได้ว่าตั้งแต่เดือน ต.ค. เราจะมีวัคซีนเข้ามาค่อนข้างมาก สำหรับแผนการฉีดที่ ศบค.เห็นชอบ เป้าหมายคือ
1. การฉีดให้ประชาชน 18 ปี ขึ้นไป เข็มที่ 1 ให้ได้อย่างน้อยจังหวัดละ 50% โดยแต่ละจังหวัดจัดสรรให้อย่างน้อย 1 อำเภอฉีดครอบคลุม 70% และมีต้นแบบ COVID Free Area คือฉีดให้ครอบคลุม 80% อย่างน้อย 1 พื้นที่ในจังหวัด และต้องเพิ่มความครอบคลุมในกลุ่ม 608 ให้มากที่สุด คือ ผู้สูงอายุกว่า 60 ปี ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรั้งและหญิงตั้งครรภ์ ไปจนถึงกลุ่มเสี่ยงอื่นตามความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด โดยจะฉีด ตามสูตรการฉีดวัคซีนไขว้ซิโนแวค+แอสตร้าฯ สูตรแอสตร้า+แอสตร้าฯ และสูตรแอสตร้าฯ + ไฟเซอร์ จำนวน 16.8 ล้านโดส
2. เดือน ต.ค. จะมีประชาชนมาฉีดเข็ม 2 ค่อนข้างมาก ก็จะเร่งฉีดให้ครอบคลุมมากขึ้น
3. ส่วนในเด็กอายุ 12-17 ปีขึ้นไป ก็จะฉีดด้วยวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม จำนวน 4.8 ล้านโดส เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อนุญาตให้ฉีดให้เด็กได้ ก็จะเร่งฉีดเพื่อเตรียมพร้อมเปิดเทอม
4. กลุ่มแรงงานในระบบประกันสังคมฉีดสูตร ซิโนแวค + แอสตร้า จำนวน 1.1 ล้านโดส กลุ่มหน่วยงานอื่นๆ เช่น องค์กรภาครัฐ ราชทัณฑ์ เป็นสูตรซิโนแวค+แอสตร้าฯ จำนวน 0.5 ล้านโดส
5. สำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็มครบตั้งแต่เดือน มี.ค.-พ.ค.64
จากข้อมูลที่มีเราพบว่าเวลาผ่านไปภูมิคุ้มกันจะค่อน ๆ ลดตามเวลา ก็จะเพิ่มโอกาสเสี่ยงติดเชื้อได้ จึงต้องมีการฉีดเข้มกระตุ้น เบื้องต้นจะให้เป็นวัคซีนแอสตร้าฯ 1 เข็ม ซึ่งจะเริ่มในเดือนต.ค. แต่หากมีความพร้อมก็จะเริ่มได้ก่อน ส่วนวิธีการเรียกประชาชนมาฉีด ก็จะเรียงตามช่วงเวลาที่รับวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 2 ซึ่งจะประกาศในทราบในเวลาต่อไป ที่อาจจะให้ไปรับวัคซีนได้ในหน่วยบริการที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคเข็ม 1 และ 2 เพราะส่วนใหญ่รับที่ รพ. ซึ่งก็มีวัคซีนแอสตร้าฯ อยู่แล้ว เราก็สามารถให้เอามาฉีดเป็นบูสเตอร์ได้ ทั้งนี้จะประกาศให้ทราบล่วงหน้าเพื่อเตรียมตัวอีกครั้ง โดยเฉพาะพื้นที่เศรษฐกิจ ขณะนี้ เริ่มดำเนินการบางส่วน เช่น ภูเก็ตแซนบ็อค และกลุ่มผู้ติดเชื้อแล้ว 1-3 เดือน
“ระยะต่อไปเราจะอยู่กับโควิดค่อนข้างนาน เพราะเชื้อมีการเปลี่ยนแปลงตลอด จึงขอฝากให้คงมาตรการควบคุมป้องกันโรคแบบครอบจักรวาล สถานประกอบการให้ทำบับเบิล แอนด์ ซีลมากขึ้น วัคซีนไม่ใช่เครื่องมือเดียว ฉีดวัคซีนแล้วยังต้องคงเข้มมาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล ต้องสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ”นพ.โอภาส กล่าว