"หมอธีระวัฒน์" เผย ! ผลวิจัยจีน "เด็กฉีดวัคซีนเชื้อตาย" 2 เข็ม ต่อด้วยแอสตร้าฯ ได้ผลดีสุด
15 ก.ย. 2564, 11:21
เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 64 นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ระบุว่า เด็กต่างจากผู้ใหญ่ จะให้เขาได้อะไรที่เขาปลอดภัยที่สุด ทั้งระยะสั้นและยาวจากโควิดและวัคซีน
1.เด็กติดง่าย แต่ตายยาก ถ้าไม่มีโรคประจำตัว
2.แต่ติดแล้วมีปัญหาต่อตามมาได้ แม้เมื่อเชื้อหมดไปแล้ว เช่น การอักเสบในร่างกายระยะยาว พัฒนาการและทางสมอง
3.สรุปต้องฉีดวัคซีน วัคซีนอะไร?
4.วัคซีน mRNA มีความเสี่ยงหัวใจอักเสบ แม้ใช้กันแล้วในประเทศตะวันตก แต่ประเทศเหล่านั้นไม่มีวัคซีนเชื้อตาย
5.ความเสี่ยงหัวใจอักเสบ ที่ว่าไม่มากและรักษาได้ถ้ารักษาทัน แต่ตาม ข้อหนึ่ง เด็กตายยากอยู่แล้ว คงต้องคิดความปลอดภัยสูงสุดเป็นหลักด้วย
6.วัคซีนเชื้อตายสองเข็มฉีดเป็นรากฐานเพื่อใช้วัคซีนอื่นต่อ ทั้ง แอสตร้า หรือ mRNA ซึ่งเลี่ยงไปใช้ปริมาณน้อยได้ โดยฉีดเข้าชั้นผิวหนัง เพื่อลดความเสี่ยงอันตราย ดังข้อ 4
7.แต่ด้วยวัคซีนเชื้อตายเองก็แฝงผลแทรกซ้อนไว้ด้วย ดังนั้นจะใช้เป็นการฉีดเข้าชั้นผิวหนัง 0.1 ซีซี ทั้งเข็มที่หนึ่งและเข็มที่สอง ควรจะเพิ่มความปลอดภัยแต่คงประโยชน์ไว้ได้
และถ้าต้องการได้ผลเร็วฉีดวันที่ศูนย์ และวันที่เจ็ดควรจะได้ภูมิคุ้มกันดีขึ้นในวันที่ 14 ถึง 30 หลังจากฉีดเข็มที่สอง และไปต่อยอดตามข้อหก หนึ่งเดือนครึ่งถึงสามเดือนหลังจากฉีดเข็มที่สอง
ประเทศจีน ใช้แล้วในเด็ก และการศึกษาในผู้ใหญ่ยืนยันแล้วว่าการฉีดเชื้อตาย ชิโนแวค “ต้อง 2 เข็ม” และเมื่อต่อด้วยวัคซีนแบบแอสตร้าจะได้ผลดีที่สุด