พิษเตี้ยนหมู่น้ำท่วม วัดหนองยาง จ.ศรีสะเกษ พระเณรช่วยกันวิดน้ำออกจากศาลาวัด
26 ก.ย. 2564, 09:24
เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่ขณะนี้พายุดีเปรสชั่น “เตี้ยนหมู่” ได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงแล้ว โดยพัดปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างทำให้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ฝนที่ตกต่อเนื่องในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษได้ส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมขังในเขตบ้านหนองยาง ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งน้ำได้เอ่อไหลเข้าไปท่วมบริเวณวัดศีรเกษตรพัฒนาราม หรือวัดบ้านหนองยาง ทำให้กุฏิพระสงฆ์ ศาลาการเปรียญจมใต้น้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณศาลาการเปรียญซึ่งเป็นสถานที่ปฏิบัติศาสนกิจของพระสงฆ์และเก็บวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ น้ำได้เอ่อไหลเข้าไปท่วมภายในศาลาการเปรียญ พระอธิการเอกนรินทร์ เอกรินโท เจ้าอาวาสวัดบ้านหนองยาง พร้อมด้วยพระสงฆ์สามเณรต้องช่วยกันเก็บข้าวของเครื่องอัฐบริขารต่าง ๆ ขึ้นไปไว้บนที่สูงเพื่อหนีน้ำท่วม พร้อมทั้งได้ช่วยกันนำเอากระสอบทรายมาวางกั้นประตูทางเข้าศาลาการเปรียญเพื่อกั้นน้ำเอาไว้ จากนั้น เจ้าอาวาสวัดพร้อมด้วยพระเณรได้ช่วยกันกวาดน้ำและวิดน้ำออกจากศาลาการเปรียญ เพื่อป้องกันไม่ให้ สิ่งของต่าง ๆ ของวัดได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม แต่ว่าก็ยังคงมีน้ำเอ่อไหลเข้าไปในบริเวณศาลาการเปรียญอย่างต่อเนื่อง
พระอธิการเอกนรินทร์ เอกรินโท เจ้าอาวาสวัดบ้านหนองยาง กล่าวว่า วัดนี้ตั้งมาตั้งแต่ปี 2526 เป็นระยะเวลานานกว่า 38 ปีแล้ว ยังไม่เคยมีน้ำท่วมวัดมาก่อนเลย ครั้งนี้นับว่าวัดแห่งนี้ถูกน้ำท่วมเป็นครั้งแรก โดยน้ำเริ่มไหลเข้ามาท่วมวัดช่วงเวลาประมาณ 10.00 น.ของวันนี้ (25 ก.ย.64) น้ำไหลเอ่อมาเร็วมาก อาตมาภาพพร้อมด้วยพระเณรต้องช่วยกันเก็บข้าวของต่าง ๆ ของวัดขึ้นไปอยู่บนที่สูงเพื่อหนีน้ำท่วมอย่างเร่งด่วน น้ำได้ท่วมบริเวณใต้กุฏิพระสงฆ์ จำนวน 4 หลังและท่วมศาลาการเปรียญ ซึ่งสาเหตุที่เกิดน้ำท่วมในครั้งนี้คาดว่าเกิดจากการที่มีการทำคลองวางท่อระบายน้ำ มีการนำเอาท่อระบายน้ำมาวางใหม่แล้วทำให้เกิดการอุดตันทางน้ำที่จะไหลลงไปสู่ห้วยน้ำคำ ซึ่งแต่ก่อนหน้านี้จะมีคลองน้ำธรรมชาติระบายน้ำเชื่อมโยงกันหมด แม้ว่าจะมีน้ำท่วมขังบ้างแต่ประมาณ 1 ชม.น้ำก็ลดลงแล้ว แต่ครั้งนี้น้ำท่วมนานหลายชั่วโมงแล้ว ระดับน้ำยังไม่ลดลงแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า ขณะที่บริเวณบ้านหนองยาง ม.6 ต.หนองครก อ.เมือง น้ำได้ท่วมถนนสายบ้านหนองยางไปยังบ้านโนนเจริญ ระยะทางประมาณ 1 กม. ระดับน้ำที่ท่วมถนนสูงประมาณ 30 ซม. ทำให้รถทุกชนิดสัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถเล็ก และรถ จยย.ที่ขับฝ่าสายน้ำที่ท่วมถนนทำให้เครื่องรถ จยย.ดับกลางสายน้ำหลายคัน น้ำยังได้ไหลเอ่อเข้าไปท่วมบ้านเรือนชาวบ้านบางส่วน ซึ่งน้ำท่วมครั้งนี้ทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านหนองยางได้รับผลกระทบประมาณ 348 ครัวเรือน นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ ได้สั่งการให้ นายบุญประสงค์ นวลสายย์ หน.สนง.ปภ.จ.ศก.นำเอาติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาด 14 นิ้ว มาทำการสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำ ขณะที่เทศบาลเมืองศรีสะเกษ ได้ทำการติดตั้งป้ายสัญญาณหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางที่กำลังถูกนำท่วม ส่วนที่ชุมชนหนองคู ม.5 ต.หนองครก อ.เมือง น้ำได้ท่วมถนนและบ้านเรือนเช่นกัน ทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบ 250 ครัวเรือน และที่ชุมชนหนองแดง ม.3 ต.หนองครก น้ำได้ท่วมถนนและบ้านเรือน มีชาวบ้านได้รับผลกระทบ 48 ครัวเรือน ปภ.ศรีสะเกษ และเทศบาลเมืองศรีสะเกษ ได้เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ขนาด 4 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำท่วมอย่างเร่งด่วนแล้ว
นางวิเลิศ ทองบุญ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 หมู่ 6 ต.หนองครก อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ที่กำลังเดินฝ่าสายน้ำที่ท่วมถนนภายในชุมชนหนองยาง กล่าวว่า ตนเป็นลูกสาวของผู้ก่อตั้งบ้านหนองยางแห่งนี้ ไม่เคยย้ายไปอยู่ที่ใดมานาน 60 ปีแล้ว และหมู่บ้านหนองยางไม่เคยถูกน้ำท่วมมาก่อนเลย น้ำท่วมครั้งนี้นับว่า เป็นน้ำท่วมบ้านหนองยางครั้งแรกในรอบ 60 ปี สาเหตุคาดว่าเกิดจาก การที่มีการทำถนนแล้วใส่ท่อระบายน้ำท่อเดียว ซึ่งตนเห็นว่า หากใส่ท่อ 2 ท่อจะทำให้น้ำไหลสะดวกกว่านี้ น้ำที่ไหลจากบริเวณนี้ไม่มีท่อน้ำที่จะไหลส่งไปยังท่อระบายน้ำของส่วนราชการที่มาทำท่อระบายน้ำเอาไว้ และไม่มีการเชื่อมต่อท่อเอาไว้ ทำให้น้ำไหลลงไปด้านเดียว ซึ่งทำให้น้ำระบายไม่ทัน จึงทำให้เกิดน้ำท่วมถนนและบ้านเรือนของชาวบ้านเป็นครั้งแรกในรอบ 60 ปีดังกล่าว