กาญจน์ หลายอำเภอยังอ่วม จากพิษพายุ "คมปาซุ"
18 ต.ค. 2564, 09:08
วันนี้ 18 ต.ค. 64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่าจากกรณีของพายุ “คมปาซุ” ได้ทำให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดกาญจนบุรี โดยฝนได้ตกตั่งแต่คืนวันนี้ 16 ต.ค.64 ที่ผ่านมาฝนได้ตกข้ามวันข้ามคืนเป็นวันที่ 3 ยังไม่หยุด ทำให้ระดับน้ำจากเทือกเขาไหลลงสู่พื้นที่ต่ำ อ่างเก็บน้ำหลายแห่งเกิดน้ำล้นอ่าง และดินที่ชุ่มน้ำได้กัดเซาะภูเขาทำให้เกิดดินถล่มลงมาปิดถนนหลายจุด รวมถึงน้ำได้กัดเซาะทำให้ถนนทางหลวงแผ่นดินสายสำคัญๆ พังขาดทำให้เส้นทางไม่สามารถผ่านเข้าออกได้ เจ้าหน้าที่เร่งเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในแต่ละพื้นที่ทุกจุดเพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัย
โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ นายนภเดช เกลียวศิริกุล นายอำเภอทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่าตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาฝนได้ตกลงในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุทำให้เกิดดินสไลด์ลงมาจากไหล่เขาปิดทับถนน โดยเฉพาะบริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3272 กม.ที่ 40+700 น้ำเซาะถนนทรุดหายไปครึ่งช่องทางการจราจร และบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 4-5 เกิดดินสไลด์ความยาวประมาณ 15 เมตร
ซึ่งเจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงชนบท รวมทั้งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ กำลังเข้าดำเนินการซ่อมแซมเพื่อให้กลับมาใช้งานได้ดังเดิม แต่ระหว่างนี้ ขอให้นักท่องเที่ยวหยุดการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่บ้านอีต่อง ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะมั่นใจในความปลอดภัย
ด้านนายเจริญ ใจชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ กล่าวว่า จากกรณีดินสไลด์ทำให้ต้นไม้หักโค่นขวางถนน และนำกัดเซาะถนนได้รับความเสียหายหลายจุด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ได้เข้าตรวจสอบจุดแรกบบริเวณทางหลวงชนบทสาย 3272 กม.40+800(บ้านไร่เชิงเขา)พบถนนถูกน้ำกัดเซาะเสียหายครึ่งช่องทางจราจร จุดที่ 2.ตรวจสอบเส้นทางหลวงชนบท สาย กจ. 4088 (บ้านไร่-อีต่อง) มีต้นไม้ ล้ม ดินสไลด์บริเวณ กม.1+800 (จุดสกัดบ้านไร่เชิงเขา)ยาวประมาณ 15 เมตร และจุดที่ 3 กม.2+100 ยาวประมาณ 30 เมตร
เจ้าหน้าที่หน่วยฯ.ทภ.5(บ้านไร่) ไม่สามารถดำเนินการได้จึงประสานกรมทางหลวงชนบท 4088 นำเครื่องจักรกลหนักเข้ามาดำเนินการเปิดเส้นทาง และประสานงานกับ สำนักงาน ปภ.จังหวัดกาญจนบุรี สาขาทองผาภูมิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งตัดต้นไม้ที่ล้มขวางถนนเพื่อเคลียร์เส้นทางการจราจร เพื่อให้รถนักท่องเที่ยวและประชาชนสามารถสัญจรไปมาได้ตามปกติให้เร็วที่สุด
ส่วนที่อำเภอหนองปรือ นายสุทธิพร ศิวเวทพิกุล นายอำเภอหนองปรือ เปิดเผยว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาจนถึงช่วงสายวันนี้ (17 ต.ค.)ฝนได้ตกในพื้นที่ของอำเภอหนองปรือหนักอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ทำการเกษตรของประชาชนในเขตอำเภอหนองปรือ เบื้องต้นจำนวน 3 ตำบล 21 หมู่บ้าน
ประกอบด้วย 1 ต.หนองปรือ หมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 3 หมู่ 5 หมู่ 8 หมู่ 9 หมู่ 10 หมู่ 11 หมู่ 13 หมู่ 17 หมู่ 18 หมู่ 19 และ หมู่ 22 ต.หนองปลาไหล 4 หมู่บ้าน คือ หมู่ 7 หมู่ 11 หมู่ 13 และหมู่ 14 และ ต.สมเด็จเจริญ 4 หมู่บ้าน ประกอบด้วย หมู่ 2 หมู่ 3 หมู่ 6 และ หมู่ 7 โดยหากไม่มีปริมาณฝนตกลงมาเพิ่มเติม เชื่อว่าสถานการณ์น่าจะคลี่คลายได้ภายใน 2 วัน
ล่าสุดเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ สำนักงานใหญ่ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ ทีมชลกาญจน์ มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ นำกำลัง 40 นาย พร้อมรถยนต์และเรือท้องแบนลงพื้นที่ ต.สมเด็จเจริญ อ.หนองปรือ เพื่อเตรียมให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบหากจำเป็นต้องอพยพขึ้นสู่ที่สูงแล้ว
ส่วนนายสุชัย หรดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ กล่าวว่า ด้วยเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2564 มีฝนตกหนักในพื้นที่อุทยานเเห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ตั้งเเต่ เวลา 21.00 น. จนถึงเวลา 12.00 น.ของวันนี้ ( 17 ต.ค.) ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากรุนเเรง ตามลำห้วยกระพร้อย เเละลำห้วยลำทองหลาง ที่ไหลผ่านโซนบริการของอุทยานฯ
เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว อุทยานฯ จึงได้เเจ้งปิดการเข้าเที่ยวชม เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ถ้ำธารลอดน้อย- ถ้ำธารลอดใหญ่ เเละน้ำตกสไลเดอร์ ในวันที่ 17 ตุลาคม 2564 ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้นักท่องเที่ยว บางส่วนที่นำรถยนต์ เข้ามาจอดพักกางเต็นท์ บริเวณลานกางเต็นท์ จำนวน 13 คัน นักท่องเที่ยว ประมาณ 20-25 คน ไม่สามารถนำรถยนต์กลับออกไปได้เร่งประสานใช้รถไถบรรทุกลากรถนักท่องเที่ยวข้ามออกมาอย่างเร่งด่วนแล้ว
เนื่องจากน้ำในลำห้วยลำทองหลางที่ไหลข้ามเส้นทาง มีระดับสูง เเต่นักท่องเที่ยวทั้งหมดสามารถสัญจรโดยใช้สะพานไม้ได้ เพียงรอให้ระดับน้ำป่าลดระดับลงจึงจะสามารถนำรถยนต์ผ่านออกมาได้ ทั้งนี้อุทยานฯ ได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก ความปลอดภัยเเละประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลเเก่นักท่องเที่ยวโดยต่อเนื่อง
โดยช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. ตนได้รับรายงานว่า ถนนทางหลวง จากอำเภอหนองปรือมุ่งหน้าไปอุทยานเเห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ช่วงบ้านโป่งช้าง - บ้านสามหลัง ถูกน้ำป่าไหลหลากกัดเซาะถนนจนขาด โดยประชาชนในพื้นที่สามารถถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ได้
สำหรับในอำเภอเลาขวัญ น้ำจากในพื้นที่เขื่อนกระเสียว ได้ล้นไหลลงมาสมทบกับน้ำฝนที่ตกลงมาต่อเนื่องทำให้ท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่อาศัยในอำเภอเลาขวัญระดับน้ำสูงเกือบ 2 เมตร รถยนต์ที่จอดรวมถึงทรัพย์สินได้จมอยู่ใต้น้ำไม่สามารถนำออกไปได้ทัน เจ้าหน้าที่ต้องเร่งหาทางเจาะทุบกำแพงที่เป็นเส้นทางไหลของน้ำให้น้ำไหลผ่านออกไปได้สะดวกเพื่อไม่ให้ทรัพย์สินเสียหายมากกว่านี้แล้วเช่นกัน.