วันนี้ 31 ส.ค. 2562 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่เรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม  พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และคณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม  ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี โดยมี พล.ต.ต.สุวิทย์ ชาวศรีทอง ผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี นายเกียรติกร ปัทมทัตต์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี นางสาวดุษสิยา วงศ์วาสนา ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติและยุติธรรมจังหวัดกาญจนบุรี  นายสมเกียรติ วอนเพียร  นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน  นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาญจนบุรี  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงยุติธรรมให้การต้อนรับ

 

โดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้รับฟังรายงานการดำเนินการของเรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี และตรวจเยี่ยมภายในเรือนจำ ทั้ง โรงครัว ซึ่งกำลังมีการประกอบการอาหารเลี้ยงผู้ต้องขัง โดยเมนูในวันนี้เป็นเมนู “ผัดซีอิ้ว” ถือว่าเป็นเมนูพิเศษเพราะผู้ต้องขังส่วนใหญ่จะชอบทาน จากนั้นได้เข้าไปยังแดนผู้ต้องขัง เยี่ยมชมร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขัง ซึ่งมีของใช้ส่วนที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันของผู้ต้องขัง พร้อมทั้งได้เยี่ยมเยียนพบปะพูดคุยกับผู้ต้องขังชายแดน 5 ซึ่งเป็นแดนสำหรับผู้ต้องขังที่มีอายุไม่เกิน 25 ปี

 

 

 

 

 

ต่อจากนั้นได้เข้าไปยังแดนผู้ต้องขังหญิง  โดยภายในแดนผู้ต้องขังหญิง จะมีมุมเรียนรู้การส่งเสริมอาชีพในหลายๆ ด้าน ทั้ง เบเกอร์รี่ มุมซักรีด นวดแผนไทย ดนตรี ศิลปะ การทอผ้า แล้วยังมีมุมหนังสือให้ผู้ต้องขังได้หาความรู้และเป็นการผ่อนคลาย นอกจากนี้ยังได้ตรวจเยี่ยมห้องเยี่ยมญาติ ซึ่งมีแนวคิดอยากจะให้ญาติและผู้ต้องขังได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นอีกด้วย

 

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวกับผู้ต้องขังภายในเรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี ว่า ขณะนี้กระทรวงยุติธรรมได้มีการหาแนวทางแก้ไขปัญหาการแออัดภายในเรือนจำทั่วประเทศ เนื่องจากมีผู้ต้องขังจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะต้องมีการพัฒนากันต่อไป สำหรับผู้ต้องขังอยากให้มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและพัฒนาตนเอง ในการเก็บเกี่ยวความรู้ ทั้งการศึกษาและการฝึกอาชีพ ที่ทางเรือนจำได้มีการจัดอบรมและมีทางเลือกให้กับผู้ต้องขัง หากสนใจในด้านให้ศึกษาความรู้ในด้านนั้น เมื่อพ้นโทษออกไปก็จะมีอาชีพหารายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัว และไม่กระทำความผิดรับการตัดสินให้กลับเข้ามาในเรือนจำอีก

 

ทั้งนี้ ในด้านการส่งเสริมการมีงานทำเมื่อพ้นโทษไปแล้ว ทางกระทรวงยุติธรรมได้หารือกับการทรวงการคลังถึงแนวทางในการปรับแก้ระเบียบให้บริษัทห้างร้านที่รับผู้พ้นโทษเข้าไปทำงานจะได้รับสิทธิพิเศษในการปรับลดหย่อนภาษี ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการอยู่