ตำรวจสอบสวนกลาง นำเสนอเรื่องราวเตือนภัยเกี่ยวกับการเลือกซื้อรถมือสองไว้ใช้งาน ที่ถึงแม้ว่าการซื้อ-ขายรถมือสอง นั้นจะเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในสังคมยุคประหยัด แต่ถ้าหากรถคันนั้นเป็นรถหนีไฟแนนซ์ อาจมีความเสี่ยงโดนคดีฐานยักยอกทรัพย์ทั้งผู้ซื้อ และผู้ขายได้ ซึ่งรถหนีไฟแนนซ์เหล่านี้มักเกิดจาก ผู้ทำสัญญาเช่าซื้อไม่สามารถผ่อนจ่ายไฟแนนซ์ได้ตามข้อตกลง แต่นำรถไปขายต่อโดยการโอนลอยให้กับผู้อื่น หรือเต็นท์รถ หรือนำรถไปจำนำแล้วไม่ผ่อนค่างวดรถต่อ

หากผ่อนค่างวดรถไม่ไหว คิดจะขายรถเพื่อหวังจะได้เงินคืนทุนสักก้อน เรื่องนี้ไม่ได้จบแค่การซื้อขายทั่วไป แต่อาจมีความผิดทางคดีอาญา เข้าข่ายมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์ เนื่องจากเจ้าของกรรมสิทธิ์คือ สถาบันการเงินเจ้าของสินเชื่อ หรือไฟแนนซ์ 
ดังนั้น การนำรถยนต์ที่ตนไม่ได้เป็นเจ้าของไปจำนำ จึงถือเป็นการเบียดบังเอาทรัพย์ซึ่งเป็นของผู้อื่นมาเป็นของตนโดยทุจริต ตามกฎหมายอาญา มาตรา 352 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ตำรวจสอบสวนกลางจึงขอแนะนำในกรณีที่จะซื้อรถมือสองไว้ใช้งาน วิธีที่ง่าย และถูกต้องตามกฎหมาย ควรซื้อรถจากเจ้าของโดยตรง แล้วโอนกรรมสิทธิ์ชื่อครอบครองเป็นของตนให้ถูกต้อง ถ้ารถคันนั้นยังจ่ายค่างวดกับไฟแนนซ์ไม่หมด ให้ทำการโอนชื่อรถ และไฟแนนซ์ให้เรียบร้อย

แต่หากซื้อรถมือสองโดยไม่ทราบที่มา หรือรถที่มีการประกาศขายลักษณะเป็นการโอนลอย ให้สงสัยไว้ก่อนว่าอาจจะเป็นรถหนีไฟแนนซ์ หรือรถที่ถูกโจรกรรมมา ซึ่งผู้ซื้อรถมีความเสี่ยงถูกดำเนินคดีความผิดทางอาญาข้อหายักยอกทรัพย์ หรือรับของโจรด้วยเช่นกัน