เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



บัวขาว บัญชาเมฆ ขึ้นบริหารสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย


4 พ.ย. 2564, 13:51



บัวขาว บัญชาเมฆ ขึ้นบริหารสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย




วันนี้ (4 พ.ย.64) บัวขาว บัญชาเมฆ รือ ร้อยตรีสมบัติ บัญชาเมฆ นักมวยชื่อดัง ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเพื่อกราบขอบพระคุณหลังได้รับการแต่งตั้งให้เข้ารับตำแหน่งกรรมการบริหารสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย พร้อมกับตั้งใจจะใช้ความรู้ความสามารถในการส่งเสริมสมาคมกีฬาแห่งนี้ให้ประสบความสำเร็จในการคว้าเหรียญทอง ดังข้อความด้านล่าง 


"กราบขอบพระคุณผู้ใหญ่ทุกท่านที่เมตตาพิจารณามอบโอกาสให้กระผม ร้อยตรีสมบัติ บัญชาเมฆ(บัวขาว) ให้ได้รับตำแหน่งบอร์ดบริหารสมาคมกีฬาคิกบอกซิ่งแห่งประเทศไทย (KickBoxing Association Of Thailand) กระผมจะใช้ความรู้ความสามารถที่มีทำหน้าที่ขับเคลื่อนสมาคมกีฬาคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทยอย่างเต็มกำลังความสามารถ สำหรับในกีฬาประเภทนี้ เป็นกีฬาที่ความหวังในจำนวนของเหรียญทองมากระดับต้นๆของประเทศไทย

**ในฐานะของตัวแทนสมาคมคิกบ็อกซิ่งแห่งประเทศไทย ขอประชาสัมพันธ์ถึงนักกีฬา โค้ช ผู้ฝึกสอน นักวิทยาศาสตร์การกีฬา นักกายภาพ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้เตรียมความพร้อมสำหรับการคัดเลือกนักกีฬาตัวประเทศไทย โดยทางสมาคมจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบในช่วงต่อไปโดยนโยบายทางสมาคมจะมีการคัดเลือกนักกีฬาที่มีความสามารถอย่างเป็นธรรมและอีกประการหนึ่ง กีฬาคิกบ็อกซิ่ง กำลังจะได้บรรจุในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ เพราะ IOC รับรองกีฬาคิกบ็อกซิ่งเรียบร้อยแล้ว 
การแข่งขันที่จะมีการส่งแข่งขัน



- การแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2565
-การแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์มาร์เชียลอาร์ตสเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ประเทศไทย ปี 2565
-การแข่งขันกีฬาเวิลด์เกมส์ ครั้งที่ 11 ปี 2566 กำหนดจัดขึ้นที่เมืองเบอร์มิงแฮม มลรัฐอะลาบามา ประเทศสหรัฐอเมริกา
-การแข่งขันกีฬาเวิลด์คอมแบทเกมส์ ปี2566 กรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย
** การแข่งขันเจ้าภาพอาจมีการเลื่อนจัดการแข่งขันในปีถัดไปตามถานะการณ์

ส่วนเงินอัดฉีดจากรัฐบาลที่มอบให้นักกีฬา ปัจจุบันมหกรรมและการแข่งขันต่างๆ มีมากขึ้น บางรายการได้เหรียญรางวัลยากกว่าเดิม ทำให้ต้องมีการปรับเพิ่มเงินรางวัลให้เหมาะสมมากขึ้น โดยเฉพาะกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ที่ปรับเพิ่มจากเหรียญทอง 1 ล้านบาท เป็น 2 ล้านบาท เหรียญเงิน 5 แสนบาท เป็น 1 ล้านบาท และเหรียญทองแดง 2 แสนบาท เป็น 5 แสนบาท ซึ่งจะใช้หลักการใหม่นี้ตั้งแต่การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ในปีหน้า ขณะที่เงินอัดฉีดโอลิมปิกเกมส์ได้ปรับเปลี่ยนและเริ่มใช้ไปตั้งแต่โอลิมปิกเกมส์ 2016 แล้ว คือ เหรียญทอง 12 ล้านบาท เหรียญเงิน 7.2 ล้านบาท เหรียญทองแดง 4.8 ล้านบาท ส่วนรางวัลซีเกมส์, เอเชี่ยนบีชเกมส์, เอเชี่ยนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ยังได้เหรียญทอง 2 แสนบาท เหรียญเงิน 1 แสนบาท และเหรียญทองแดง 5 หมื่นบาทเท่าเดิม นอกจากนั้นเงินรางวัลสำหรับศึกชิงแชมป์โลก ชิงแชมป์เอเชีย มีการปรับเพิ่มลดไปตามความเหมาะสม ถ้าเป็นกีฬาที่มีในโอลิมปิกเกมส์ ชิงแชมป์โลกจะได้เพิ่มจากเดิม 1 ล้านบาท เป็น 1.5 ล้านบาท เป็นต้น


 






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.