วันนี้ (17 พ.ย. 64) นายชุมพล จุลใส(ส.ส.ลูกหมี) ส.ส.ชุมพร เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกับ กลุ่มเพื่อนๆ,กลุ่มเพื่อน ส.ส.ลูกช้าง เขต 3 ชุมพร  , นายนพพร อุสิทธิ์ นายก อบจ.ชุมพร ,นายอิสรพงษ์ มากอำไพ (เลขาตาร์ท) เลขานุการ นายก อบจ.ชุมพร และ สจ.ทีมพลังชุมพร ได้ร่วมกัน ระดมจิตอาสา มาเร่งบรรจุถุงยังชีพ ณ ศูนย์ประสานงานทีมพลังชุมพร(บ้านนายก อบจ.) เลขที่ 29 ม.1 ถนนเมืองชุมพร ซอย 21/1 ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร เพื่อส่งต่อให้ ชุดเคลื่อนที่เร็ว คือ บรรดาทีม สจ.ใกล้บ้าน ที่มีพื้นที่รับผิดชอบ อยู่ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม ครอบคลุมทั้ง จังหวัดชุมพร

“ที่นี่จะเป็นสถานที่ บรรจุถุงยังชีพ ที่พี่น้องประชาชนบริจาคมามาร่วมสมทบ กับ กลุ่มเพื่อน ส.ส.ลูกหมี,กลุ่มเพื่อน ส.ส.ลูกช้าง , กลุ่มเพื่อนนายกโต้ง-นายก อบจ. และสจ.ทีมพลังชุมพร  ซึ่งสามารถบรรจุได้วันละ 1,000 ชุด นอกจากนี้ ยังมีการบริหารจัดการ เรื่องถุงยังชีพ ในนาม อบจ.ชุมพร อีก ซึ่งเมื่อ บรรจุ ถุงยังชีพ เรียบร้อย ก็จะมีชุดเคลื่อนที่เร็ว นำถุงยังชีพ ไปส่งให้ ทีมส่วนหน้า แจกจ่ายให้ผู้ประสบภัยอีกครั้ง โดยภายในถุงยังชีพ จะสามารถยังชีพได้ 4-5 วัน สำหรับครัวเรือนที่อยู่อาศัย 2-3 คน ” นายรุ่ง ดวงภุมเมศร์ เลขานุการ นายก อบจ.ชุมพร กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีรายงานว่า ได้มีกำหนดการของ พลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี และคณะ มีกำหนดลงพื้นที่ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชุมพร พร้อมเป็นประธานอัญเชิญถุงยังชีพพระราชทาน เพื่อมอบสิ่งของพระราชทานให้กับราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จำนวน 2,995 ชุด ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอสวี ในวันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน 2564 ด้วย

ด้าน จ.ชุมพร ได้รายงานว่า มีน้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ คือ อ.หลังสวน อ.สวี อ.เมือง อ.ทุ่งตะโก อ.ปะทิว และ อ.ท่าแซะ มีประชาชนได้รับผลกระทบ กว่า10,000 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว ในขณะเดียวกัน จ.ชุมพร ก็ยังคง แจ้งเตือนให้ประชาชนชาวจังหวัดชุมพร ให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในช่วงวันที่ 17-18 พฤศจิกายน 2564 หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ในขณะที่เกิดฝนฟ้าคะนอง และระวังอันตรายที่เกิดจากลมกระโชกแรง และให้ติดตามประกาศเตือนภัยกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด หากสถานการณ์มีความรุนแรงให้แจ้งผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้สามารถช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที และรายงานสถานการณ์ให้จังหวัดทราบโดยด่วน ทางโทรศัพท์/โทรสาร หมายเลข 077 502 257, 077 503 230, และ 077 501 207 จนกว่าสถานการณ์จะยุติ