จากกรณี ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ประกาศถอนตัวช่วยคดี นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล พร้อมนางสมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น จากคดีน้องชมพู่ โดยให้เหตุผลว่ามีความเห็นที่ไม่ตรงกัน 

ต่อมามีกระแสข่าวว่า ลุงพล-ป้าแต๋น ได้ติดต่อไปยังทนายดัง อักษรย่อ อ. ให้มาสู้คดีดังกล่าว ซึ่งล่าสุด (6 ธ.ค.64) ข่าวช่อง 3 รายงานว่า นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง เปิดเผยถึงกระแสดังกล่าวว่า ตนอยู่ของตนเฉยๆ ไม่ได้ยินดียินร้าย ไม่เคยวิจารณ์คดีนี้ ไม่ว่าจะผิดหรือถูก 

เรื่องนี้เริ่มจาก วันที่ 30 พ.ย.ทนายฤทธิ์ โทรศัพท์มาหา บอกว่าลุงพลและป้าแต๋น อยากให้ตนเป็นทนาย จึงบอกว่าตนกำลังทำคดีอยู่ ไม่สะดวก ตอนเย็นเขาก็โทรมาอีก ตนไม่รับสาย เพราะไม่อยากจะทำ เพราะว่าไม่เคยสนใจคดีนี้เลย แม้จะคอยตามข่าวอยู่ จนเขาส่งข้อความมาต่อว่า ว่าตนไม่รับโทรศัพท์ ตนจึงโทรกลับไปอีก

สักพัก นายนที อ้างเป็นเลขาของ ลุงพล ได้โทรมาบอกว่า อยากให้ตนเป็นทนาย เพราะว่าทนายตั้ม เคยคุยกับเขาไว้ว่า ทนายอนันต์ชัยแม่นกฎหมายที่สุด ซึ่งเขาบอกว่าไม่กลัวเลยถ้าเป็นทนายอนันต์ชัย 

สำหรับตนตอนมีกระแสข่าว ยอมรับว่ารู้จักกลุ่มทนายทั้งหมด แต่ไม่ได้มีศัตรูกับใคร อย่าตีความว่ารู้จักใครแล้วจะเข้าข้างเขา ตนโดนคนคอมเมนต์ด่า ขนาดยังไม่ได้ทำอะไรก็โดนแล้ว 

สำหรับเรื่องลุงพลนั้น ขอปรึกษากับทีมงานก่อน เจ้าตัวแจ้งว่าจะให้เข้ามาพบเมื่อไรก็จะเล่าความจริงให้ ตอนนี้ตนทำคดีของ คดีนักเรียนนายร้อยตำรวจ ชยากร พุทธชัยยงค์ หรือน้องโยโย่ ที่กระโดดร่มจากเครื่องบินแต่ร่มไม่กางแล้วเสียชีวิต ที่ จ.เพชรบุรี ซึ่งคดีนี้ตนไม่ได้คิดเงิน สิ่งที่ต้องการจะสื่อคือ การจ้างตน หรือต้องการความยุติธรรมจากตน ไม่จำเป็นต้องมีเงินเสมอไป ถ้าเป็นคนดีจริง อาจไม่ต้องใช้เงินเลยก็ได้ เพราะสังคมจะได้รับรู้ว่าใครผิด และยังเป็นการกุศลอีกด้วย 

นอกจากนี้ยังมีการคอมเมนต์ว่าต้องการเปิดรับบริจาคมาจ่ายค่าทนาย 5 ล้าน 10 ล้านบ้าง ขออย่าเอาชื่อเสียงตนไปทำเสียหาย ตนมองลุงพลในทางที่ดี ตนให้โอกาส เพราะคำพิพากษายังไม่ออก แต่ขอแฟนคลับลุงพลอย่าโกรธที่ตนไม่ทำคดีให้ เพราะถ้าลุงพลเอ่ยชื่อตนออกมาจริง ๆ ก็เสี่ยงทำให้เลย เพราะขนาดแค่นี้ยังไม่ให้ใจ ตนทำให้คนดีมีศีลธรรม คนไม่ดีไม่ทำให้ อย่ามาเสียเวลากับตนเลย