เผยวินาที ! "ทหารปืนโหด" รัวปืนยิงเมีย 8 นัด ดับคาปิคอัพต่อหน้าแม่ยาย
10 ธ.ค. 2564, 09:13
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นายประยงค์ สมพงษ์ อายุ 34 ปี เป็นพลอาสาสมัครทหาร ได้ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิง น.ส.เชาวนี อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นภรรยาเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณเบาะที่นั่งด้านคนขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้าสีขาว ถูกยิงด้วยอาวุธไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณศีรษะตามลำตัว รวม 8 นัด ปลอกกระสุนปืนเกลื่อนบริเวณ จากนั้น ได้ขับขี่รถยนต์ยี่ห้อ ฟอร์ด สีแดง หลบหนีไป โดยนายประยงค์ ได้ใช้อาวุธปืนยิงศีรษะตัวเองเสียชีวิตที่ศาลหลักเมืองกันทรลักษ์ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 9 ธ.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ว่าการ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นี่คือภาพเหตุการณ์ก่อนเกิดเหตุที่ พลอาสาสมัครประยงค์ อายุ 34 ปี ซึ่งแต่งเครื่องแบบทหารเต็มยศได้เดินทางมาที่สำนักทะเบียน ที่ว่าการ อ.กันทรลักษ์ เพื่อที่จะจดทะเบียนหย่ากับ น.ส.เชาวนี อายุ 34 ปี ซึ่งเป็นภรรยา โดยพลอาสาสมัครประยงค์ มีญาติประกอบด้วยน้องชายกับแม่มาด้วย ส่วน น.ส.เชาวนี มีนางถวิล อารีย์ อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นแม่มาด้วย โดยพลอาสาสมัครประยงค์ได้เดินเข้าไปในห้องทะเบียน จากนั้น ได้เดินออกมาจากห้องและได้เดินเข้าไปในห้องทะเบียนใหม่ และได้เดินมาออกมาจากห้องพร้อมด้วย น.ส.เชาวนี และญาติทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งพลอาสาสมัครประยงค์ พยายามจะเข้าไปจับยื้อยุดจับแขนของ น.ส.เชาวนี แต่ว่าแม่ของ น.ส.เชาวนี ได้เข้าไปขวางเอาไว้ เนื่องจากเกรงว่า น.ส.เชาวนี อาจจะโดนทำร้าย จากนั้น ได้พากันเดินมาที่ประตูทางเข้าซึ่งมีการพูดคุยกันและพลอาสาสมัครประยงค์พยายามจะเข้าไปหา น.ส.เชาวนี แต่ว่า นางถวิล แม่ของ น.ส.เชาวนี ได้ใช้ตัวเองขวางกั้นกลางเอาไว้ ต่อมาทั้ง 2 ฝ่ายได้เดินออกไปที่บริเวณด้านหน้าที่ว่าการ อ.กันทรลักษ์ ซึ่งเป็นที่จอดรถของ น.ส.เชาวนี เป็นรถปิคอัพโตโยต้าสีขาว และรถเก๋งยี่ห้อฟอร์ดสีแดงของพลอาสาสมัครประยงค์ จอดอยู่ใกล้กัน โดยมีรถปิคอัพสีดำคันหนึ่งจอดอยู่ตรงกลาง
ต่อมานางถวิล แม่ของ น.ส.เชาวนี และญาติของพลอาสาสมัครประยงค์รวมทั้งประชาชนบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ ได้แตกฮือวิ่งหนีเนื่องจากว่า ได้ยินเสียงปืนดังหลายนัด โดยพลอาสาสมัครประยงค์ได้ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.รัวยิง น.ส.เชาวนี จากด้านข้างรถปิคอัพที่ น.ส.เชาวนี นั่งอยู่กระสุนทะลุกระจกด้านข้างแตกกระจาย จากนั้นพลอาสาสมัครประยงค์ ได้เดินอย่างใจเย็นไปขึ้นรถเก๋งยี่ห้อฟอร์ดสีแดงของตนที่จอดอยู่ใกล้กันหลบหนีไป และได้หลบหนีไปจอดรถที่ข้างศาลหลักเมืองกันทรลักษ์ แล้วถือปืนวิ่งขึ้นไปบนศาลหลักเมืองกันทรลักษ์ จากนั้นใช้อาวุธปืนที่ถือมายิงศีรษะตนเองเสียชีวิต เพื่อหนีความผิดที่เกิดขึ้น ซึ่ง พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.สภ.กันทรลักษ์ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ทางด้าน นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ตนจะได้เชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนหย่าทั้งหมดมาพบ เพื่อวางมาตรการแนวทางป้องกันไม่ให้ปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นมาอีก โดยจะกำชับให้เจ้าหน้าที่แจ้งให้ทั้ง 2 ฝ่ายที่จะมาขอจดทะเบียนหย่าให้มีการเจรจาพูดคุยกันให้มีข้อยุติกันเรียบร้อยเสียก่อน จึงจะดำเนินการจดทะเบียนหย่าให้ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกต่อไป